นครบาลปูพรมค้น 7 จุดเปิดปฏิบัติการปิดเมืองล่ามือฆ่าเทคโนปทุมวัน

 

“มันแก้ไม่ได้แล้วใช่หรือไม่” มหากาพย์ศึกสงครามระหว่าง 2 สถาบัน หลังเกิดเหตุที่ “ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด” ถูกกลุ่มช่างกลอริยิงจนเสียชีวิต และนำมาสู่การเปิดโปงเบื้องหลังให้สังคมไทยได้รับรู้ แต่ตลาดยังไม่ทันวาย การ “แก้แค้น” ก็เกิดขึ้นจากฝั่งคู่อริ เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 22.15 น. กลุ่มชายแต่งกายช่างกล  9 คน รวมพลยกพวกบุกไปถึงหน้าสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ก่อนจะลงมือควัก “มีด” บุกกระหน่ำแทงนายวราวุธ หรือเร ขันคำนอก อายุ 25 ปี นักศึกษาช่างกลปทุมวันเสียชีวิต จากวงจรปิดพบว่ากลุ่มคนร้ายเป็นคู่อริช่างกลได้อยู่บริเวณป้ายหน้าสถาบันใกล้บริเวณป้ายหยุดรถประจำทาง ถนนพระราม 1 ทั้งหมดได้แสดงอาการยั่วยุ  มีชายทราบชื่อต่อมาว่า นายโต้ ได้ขึ้นปีนขึ้นบนรั้วของสถาบันเป็นต้นเหตุให้เกิดเหตุการณ์จนมีผู้เสียชีวิต

จากการสืบสวนพบว่ากลุ่มคนร้ายมีการซ่องสุ่มกัน และออกมาก่อนเหตุอบซุกซ่อนอาวุธมีดใต้รองเท้าเพื่อยากต่อการตรวจค้นจากเจ้าหน้าที่ ทำให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเดินเกมเงียบ เปิดปฏิบัติการปิดเมืองไล่ล่ามือฆ่านำกำลังสืบนครบาล สืบสวนนครบาล 6 และสถานีตำรวจนครบาลปทุมวันนำหมายค้นบุก “ทลายรังปลวก” 7 แห่ง ตามนโยบาย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  มี พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาบ และ พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 นำกำลังตำรวจนอกเครื่องแบบยกระดับทลายจอมปลวกองค์กรองค์กรอาชญากรรมช่างกลเพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีของนักศึกษา ตลอดจนเป็นการสร้างความหวาดกลัวของประชาชนที่พักอาศัยหรือสัญจรบริเวณดังกล่าวแบบขุดรากถอนโคก

ทั้งนี้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มอบหมายให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 สั่งการ พ.ต.อ.นิวัฒน์ พึ่งอุทัยศรี รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล  พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์รอง รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.อรรชวศิษฎ์ ศรีบุญยมานนท์ ผู้กำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ ทองแพ ผู้กำกับการ (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ประสาน พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ รอดเข็ม ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 6 และ พ.ต.อ.อาคม ชุมพรัตน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน กระจายกำลังออกตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย

ก่อนนายณัฐพร หรือ “โต้ 9 นิ้ว” พวงแก้ว  อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 171/751 ถนนพหลโยธิน แขวง คลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร หัวโจกของแก๊ง นายธีรทัศน์ นิจนันท์ อายุ 21 ปี อยู่ที่บ้านเลขที่ 895/1 หมู่ 7 ตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมืองสมุทรปราการ นายการัณย์ นันทะแสน อายุ 19 ปีอยู่ที่บ้านเลขที่ 271 หมู่ 4 ตำบลทุ่พระยา อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา ของกลาง กล่องของมีดพับ BROWNIG Stainless steel Knife (กล่องลาย)​จำนวน 1 กล่อง  กล่องของมีดพับ BROWNIG Stainless steel Knife B149 FA18 มีดพับกลางแจ้ง (กล่องสีดำ) จำนวน 1 กล่อง รองเท้าผ้าใบสีแดง พื้นขาว ยี่ห้อ VANs จำนวน1 คู่ จับกุมตัวผู้ต้องหาที่ 1ได้ที่บริเวณโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ แขวงและเขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ตรวจค้นและจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ 2 ได้ที่บ้านเลขที่ 301/531 ซอยรามคำแหง 68 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร  ส่วนผู้ต้องหาที่ 3 ได้ที่ร้าน เลขที่ 3567/5 ซอยรามคำแหง 89 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร

เบื้องหลังการจับกุม ตำรวจแกะรอยจากแผนประทุษกรรมในคดี “ยิงครูเจี๊ยบ และน้องหยอด” ที่สร้างความสะเทือนขวัญต่อสังคมไทยในช่วงปลายปี 2566จนรู้ถึง “วงจรชีวิต” ของกลุ่มนักเรียนช่างกลไม่เพียงสถาบันเดียว แต่สถาบันคู่อริอื่นๆ ยังถูกปลูกฝังให้มี “แนวความคิด คล้ายคลึงกันให้ “ความเกลียดชังและการล้างแค้น” จนวิเคราะห์พฤติกรรมออกมาได้ว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ ต้องเป็นกลุ่มคู่อริที่ขัดแย้งกันมาช้านานกับกลุ่มสถาบันของผู้ตาย มี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งช่าติ กำชับ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล  “เอาให้เหี้ยน” ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตามรอยคนร้ายทั้ง 9 ราย เรียกได้ว่า “รู้ใส้รู้พุง” เพียง 2 วัน สามารถระบุตัวตนทั้งหมดจนได้ และศาลได้อนุมัติหมายจับ การสืบสวนยังพบ “ทั้งสองสถาบัน” มีระบบ “เซฟเฮาส์” รังปลวกนอกรั้วโรงเรียน คอยปลูกฝัง “แนวความคิด” ที่ผิดเพี้ยนไม่ต่างกัน นำไปสู่ปฏิบัติการ “ปิดเมืองไล่ล่ามือฆ่า” นำกำลังเจ้าหน้าที่นำหมายค้นศาลเข้าตรวจค้นเซฟเฮาส์ต้องสงสัย 7 แห่ง จับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุและถูกออกหมายจับ 3 คนและตรวจยึดของกลา

 

เบื้องต้น นายณัฐพรหัวโจกให้การภาคเสธอ้างว่า เข้าไปแค่ต่อยไม่ได้ใช้มีดแทง  วันเกิดเหตุได้รวมตัวกันก่อนที่ในวิทยาเขตอุเทนถวาย ก่อนจะออกไปด้วยกันทั้งกลุ่มไปถ่ายรูปหน้าป้ายมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีปทุมวัเป็นแค่การเดินผ่านเพื่อไปกินข้าว ถ่ายเล่ นๆไม่ได้ไปยั่วยุ แต่อย่างใด  ส่วนที่เหลือให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

RELATED ARTICLES