ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก มีชุดลาดตระเวนออนไลน์ กองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการ 5 ศุนย์อำนวยการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับการร้องเรียนจากประชาชนและได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองบุรีรัมย์ ให้ช่วยรสืบสวนติดตามจับกุมตัวอดีตนักแบดมินตันเยาวชนระดับท็อป 3 ของประเทศ ซมีพฤติการณ์ลวงผู้หญิงให้รักผ่านแอปหาคู่ ก่อนเดินทางไปคบหาอยู่กินฉันแฟน และถือโอกาสทีเผลอนำทรัพย์สินของหญิงสาวที่ถูกหลอกคบหาไปขาย อีกทั้งยังมีพฤติการณ์เห็นรถจักรยานยนต์ที่ผู้เสียหายจอดเสียบกุญแจคาไว้กับรถฉกหนีไปขายต่อมีผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ เป็นที่เรียบร้อย ปัจจุบันศาลจังหวัดบุรีรัมย์พิจารณาออกหมายจับแล้ว
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลเมื่อเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชนจากการรายงานของผู้ใต้บังคับบัญชา เร่งรัดให้ พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผู้กำกับวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ร่วมกับชุดชุดปฏิบัติการ 5 ศูนย์อำนวยการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รีบสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว มี พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลช่วยกำชับ 
หลังจากนั้น พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รองผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สารวัตรวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ร.ต.ต.ทรงศักดิ์ เจียมสกุล รองสารวัตรวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พร้อมกำลังศูนย์อำนวยการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติออกล่าตัว
นำไปสูการจับกุมนายศุภกิตติ์ จันทร์ดารา อายุ 27 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 237 หมู่ 2 ตำบลบางนอน อำเภอเมืองระนอง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ 37/2567 ลงวันที่ 30 มกราคม 2567 กระทำความผิดฐาน “ ลักทรัพย์ในเคหะสถาน ” ได้ที่ภายในร้านอินเตอร์เน็ต ซอยประชาสงเคราะห์ 45 แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร สอบสวนสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า หลังจากเรียนจบจากโรงเรียนมัธยมชื่อดังย่านหัวลำโพง นโควตานักกีฬาแบดมินตัน ช่วงนั้นตนมุ่งมั่นเล่นกีฬาจนมีชื่อชั้นติดในระดับท็อป 3 ของประเทศ ได้ฉายา กอล๋ฟ ฟลิ้นท์สโตนส์ มีโควตาทุนของมหาวิทยาลัยชื่อดังแถวดินแดงเพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ก่อนจะเรียนไม่ไหวิเลิกเรียนหันมารับสอนแบดมินตันแทนิมีเงินก้อนลงทุนขายอุปกรณ์กีฬาเแต่เจ๊งไม่ประสบความสำเร็จ
ต่อมาช่วงประมาณเดือนพฤศจิกายน 2566 รู้จักกับผู้เสียหายผ่านแอปหาคู่ชื่อดัง ได้คุยกันในแอปประมาณ 3 วัน และขอคอนแท็กเพิ่มเป็นเพื่อนกันทางเฟซบุ๊ก ทักแชตและโทรคุยกันประมาณ 1 เดือน ไปหาผู้เสียหายในเมืองบุรีรัมย์ แล้วฉวยนำไอแพดแอร์ 4 ของผู้เสียหายไปขายที่ร้ายขายโทรศัพท์มือถือไม่ทราบชื่อในห้างในตัวเมืองบุรีรัมย์ ได้เงินมาจำนวน 8,000 บาท และยังนำรถจักรยานยี่ห้อ จี พี เอกซ์ สีเทา ทะเบียนบุรีรัมย์ของผู้เสียหายไปฝากขายที่ร้านรับซื้อ ใกล้ขนส่งโดยสารจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เงินมาจำนวน 10,000 บาท ก่อนหลบหนีเข้ามาที่กรุงเทพมหานคร อาศัยร้านอินเตอร์เน็ตเป็นที่นอนนำไปเล่นพนันออนไลน์จนหมดตัว จ
.ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลกล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่ห์เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่าหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพซึ่งมีอยู่มากมาย หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
