บุกจับหัวหน้าทีมลอบส่งน้ำสุจิข้ามชาติ”เครื่อข่ายแก๊งอุ้มบุญ”สร้างสัญชาติใช้ฟอกเงินจีนเทา

วันที่ 24 ก.พ.67 พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม สั่งการ พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผู้กำกับการ3กองบังคับการปราบปราม พ.ต.ต.อาธิรัตน์ ทิพย์เจริญ สารวัตรกองกำกับการ3กองบังคับการปราบปราม นำกำลังจับกุม นายธีระพงษ์ ใชยสุข อายุ 33 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 838/2565 ลง 27 เม.ย. 2565 ข้อหา “เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นนำหรือพาของต้องห้ามออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต  และ เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่น นำเข้าหรือส่งออกอสุจิ ไข่ หรือตัวอ่อน ออกไปนอกราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย” ได้ที่ บริเวณหน้าบ้านพักแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ตำบลท่าทราย อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี

หลังเมื่อปี 2560 เจ้าหน้าที่ศุลกากรหนองคายได้สกัดจับกุมแก๊งลักลอบขนถังไนโตรเจน ภายข้างในบรรจุเชื้ออสุจิมนุษย์แช่แข็ง จำนวน 6 หลอด ข้ามไปยังฝั่งลาว จากนั้นจึงขยายผลเรื่อยมา ก่อนทราบว่ามีการทำกันเป็นขบวนการใหญ่ โดยมีกลุ่มนายทุนจีนอยู่เบื้องหลังว่าจ้างให้ลักลอบนำออกไปส่งให้กับคลินิกมีบุตรยากที่ฝั่ง สปป.ลาว และกัมพูชา เพื่อนำมาผสมกับไข่ของหญิงชาวลาวหรือชาวกัมพูชาที่รับจ้างอุ้มบุญ ซึ่งหวังผลให้เด็กที่เกิดมาได้รับสัญชาติจากผู้รับจ้างอุ้มบุญ ทั้งนี้ก็เพื่อหวังผลทางกฎหมายนำมาใช้เป็นกลไกในการฟอกเงินจากกลุ่มจีนเทาอีกรูปแบบหนึ่ง จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทราบว่า นายธีระพงษ์ ผู้ต้องหารายนี้เป็นหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมงานลักลอบขนน้ำอสุจิ ข้ามไปส่งยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ปัจจุบันได้ซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จังหวัดนนทบุรี จึงติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว

สอบสวน นายธีระพงษ์ ให้การรับสารภาพว่าอยู่ร่วมในขบวนการดังกล่าวจริง ทำหน้าที่คอยควบคุมทีมงานให้นำน้ำเชื้ออสุจิไปส่งตามคลินิกฝั่ง สปป.ลาว และกัมพูชา ทำมาตั้งแต่ปี 2557 ถึงปี 2560 รับส่งตัวอ่อนครั้งละประมาณ 100 หลอด ได้รับค่าจ้างตัวละประมาณ 10,000 – 15,000 บาท สาเหตุที่ไม่มีการฝากอุ้มบุญในไทยเนื่องจากการขออนุญาตเป็นเรื่องยากและเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ส่วนทางฝั่งเพื่อนบ้านมีกฎหมายรองรับ ทำได้ง่ายกว่า และมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่ามาก เบื้องต้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ3กองบังคับการปราบปราม ดำเนินคดีต่อไป

RELATED ARTICLES