ผู้การสืบสวนนครบาลนำทีมบุกจับไอ้หื่นฉุดนักเรียนหญิงขยี้กามหลายราย

นักข่มขืนต่อเนื่องล่าเหยื่อในโลกออนไลน์แล้วตามสะกดรอยเด็กผู้หญิงอายุ 12-16 ปี ที่ “สวมชุดนักเรียน” ก่อนลงมือฉุดแล้วล่วงละเมิดทางเพศภัยร้ายบนโลกความจริงใจกลางเมืองกรุง ล่าสุดพบว่าพ้นโทษออกมาได้ก่อเหตุกับนักเรียนหญิงวัย 12 ปีอีก พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลส่งชุดพระกาฬ ล่าตัวก่อนรวบตัวไอ้หื่นรายนี้ขยายผลเหยื่ออีกเพียบ แต่ถูกขู่ฆ่า เด็กสาวบางรายถูกบังคับให้ถ่ายคลิปการช่วยตัวเองเพื่อนำมาข่มขู่ในการจะชำเราครั้งต่อไปโดยไม่กล้าแจ้งความ

ทั้งนี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้เร่งรัดจับกุมคนร้ายรายนี้ที่เป็นอันตรายต่อเด็กผู้หญิงและ สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน หลังจากพิสูจน์ทราบตัวผู้ต้องหา คือ นายวิษณุ หรือเต้ย จันทร์น้อย อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 317 แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร มีหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.149/2567 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 ข้อหา “บุกรุกเคหสถาน , กระทำชำเราแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม” และพบประวัติการถูกดำเนินคดี 3 คดีข้อหากระทำชำเรา ก่อนที่ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลจะนำทีมตามจับกุมตัวได้ที่ ภายในลิฟต์ คอนโดย่านเตาปูน ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร

ปฏิบัติการตามล่า “มนุษย์หื่นไซโคพาธ“ นักข่มขืนต่อเนื่องสุดโรคจิต ฃสะกดรอยเหยื่อเด็กผู้หญิงที่ “สวมชุดนักเรียน” ก่อนลงมือข่มขืน กลายเป็นภัยร้ายบนโลกความจริงที่ยิ่งกว่านิยายสืบสวนเกิดขึ้นแล้วในประเทศไทยใจกลางเมืองกรุงของเรา  คนร้ายลงมือก่อเหตุข่มขืนนักเรียนหญิงมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 ราย และยังไม่แจ้งความอีกหลายราย เคยถูกจับกุมตัววตั้งแต่ 7 กันยายน 2561 ก่อเหตุข่มขืนเด็กนักเรียนหญิงกว่า 2 คดี ในพฤติกรรมเดียวกันที่สะกดรอยติดตาม ปลอมตัวเป็นรถรับจ้างรับเหยื่อกลับจากโรงเรียนพาออกนอกเส้นทางไปยังใต้สะพานซังฮี้ลงมือต่อยท้องแล้วข่มขืนกระทำชำเรา

หลังโดนจับกุมและถูกส่งตัวเข้าไปรับโทษในเรือนจำอยู่หลายปี พ้นโทษออกมาสู่สังคมแล้วความใคร่ได้ฝังเข้าไปอยู่ในสันดานของมนุษย์หื่นยากที่จะกลับตัวเป็นคนดี เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2566 ความหื่นไซโคพาธรายนี้ได้กลับมาก่อเหตุอีกครั้ง เลือกเหยื่อเป็นเด็กนักเรียนหญิงวัย 12 ปี แอบเฝ้าอยู่ที่บันไดหนีไฟของตึกที่พักย่านสาทรเห็นเหยื่อนักเรียนหญิงกลับมาจากโรงเรียนเพียงลำพัง มันเดินตามเธอมาอย่างเงียบๆ จนถึงห้องพัก ทันทีที่เหยื่อนักเรียนหญิงไขประตูห้องพัก มันพุ่งปรี่เข้าไปประชิดตัวใช้มืออุดปากลากเข้าไปในห้องพักแล้วลงมือขยี้กามไม่สวมถุงยางอนามัย ซ้ำยังขู่จะฆ่า โชคช่วยที่ญาติของเหยื่อกลับมาที่ห้องพัก เมื่อได้ยินเสียงไขประตูเธอฮึดสู้ “กรี้ด” สุดเสียงและได้รับความช่วยเหลือได้ทันท่วงที

ญาติและเด็กสาวผู้เคราะห์ร้ายได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆ จนพิสูจน์ทราบตัวคนร้ายเจ้าเดิมที่ตระเวนก่อเหตุข่มขืนเด็กนักเรียนเมื่อช่วงปี 2560-2561 ชุดวิเคราะห์สืบนครบาลได้วิเคราะห์คนร้ายรายนี้แล้วไม่ใช่อาชญากรทั่วไปแต่ “เป็นอาชญากรต่อเนื่อง” ที่เป็นภัยสังคม พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลตัดสินใจส่งชุดพระกาฬแกะรอยอาชญากรรายนี้จนทราบว่าเป็นพวกที่ “ใคร่เด็ก” โดยเฉพาะเด็กผู้หญิงที่สวมชุดนักเรียน พ้นโทษออกมาแล้วยังคงตระเวนก่อเหตุลักษณะเดิม  เหยื่อจะไม่กล้าแจ้งความหรือให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เพราะถูกข่มขู่จะฆ่า เด็กสาวบางรายถูกบังคับให้ถ่ายคลิปการช่วยตัวเองเพื่อนำมาข่มขู่ในการจะชำเราครั้งต่อๆไปอีก

พล.ต.ต.ธีรเดชงัดแผนสุดคลาสสิก “แกะรอยจากแผนประทุษกรรม” กระทั่งทราบเบาะแสว่าคนร้ายรายนี้ “ขับรถรับจ้าง”  อาศัยเวลาว่างหรือระหว่างทำงานในการคัดเลือกเหยื่อ กระทั่งสืบทราบว่าได้หลบหนีไปกบดานอยู่ที่คอนโดย่านเตาปูนห้องของแฟนสาวได้ขออนุมัติศาลออกหมายค้น แต่คนร้ายไม่อยู่ห้องพัก จำเป็นต้องวางกำลัง “ซุ่ม” รอคนร้ายอยู่บริเวณลิฟต์และสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด เบื้องต้นยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา รับว่า เป็นอดีตข้าราชการ มีรสนิยมชอบเด็ก แต่ผู้เสียหายสมยอมทั้งหมด บางรายยังถ่ายภาพการช่วยตัวเองมาให้เก็บไว้ดู โทษว่าเหยื่อเด็กร้ายกว่าที่คิด สร้างเรื่องให้โดนคดี ส่วนที่ถูกกล่าวหาว่าสะกดรอยซุ่มตามเหยื่อ ยืนยันไม่ได้ซุ่ม แต่แค่รู้ว่าบ้านของเหยื่ออยู่ที่ใด

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลกล่าวว่า  ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เพราะจากแผนประทุษกรรมเป็นอาชญากรต่อเนื่องที่มีรสนิยม “ใคร่เด็ก” โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหยื่อที่สวมชุดนักเรียน และใช้วิธีสะกดรอยติดตามเหยื่อจนสบโอกาสที่เหยื่ออยู่เพียงลำพัง ไม่มีผู้ปกครองคอยดูแลลงมือฉุดกระชากลากไปข่มขืนกระทำชำเรา คนร้ายรายนี้เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาประเภทเดียวกันมาแล้วหลายครั้ง เมื่อพ้นโทษออกจากเรือนจำออกมา กลับมาก่อเหตุซ้ำอีก จัดได้ว่าอยู่ในประเภท “นักข่มขืนต่อเนื่อง”  เชื่อว่ายังมีเหยื่ออีกหลายรายที่ตกเป็นเหยื่อ แต่ไม่กล้าเข้าแจ้งความ

“ผมไม่ต้องการให้คนแบบนี้เพ่นพ่านในสังคม และขอประชาสัมพันธ์ผู้เสียหายที่เคยตกเป็นเหยื่อได้รับความยุติธรรม โปรดแจ้งข้อมูลมาที่เพจสืบนครบาล IDMB  เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมให้คำแนะนำตลอด 24 ชั่วโมง  เบาะแสของท่านจะเป็นความลับ และขอแจ้งเตือนไปยังพ่อแม่ผู้ปกครองทั้งหลาย โปรดใส่ใจและเพิ่มความระมัดระวัง อย่าปล่อยให้บุตรหลานของท่าน เดินทางกลับบ้าน หรือปล่อยให้อยู่คนเดียวตามลำพัง เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นต่อบุตรหลานเฉกเช่นคดีนี้ เพราะแม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ หากเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล” พล.ต.ต.ธีรเดชว่า

RELATED ARTICLES