ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับ DE-ปปง. สับสวิตช์ปิดตาย ดับฝันลิงก์เว็บพนัน วัยรุ่นสร้างตัว

ตำรวจสอบสวนกลางร่วมกับ DE-ปปง. สับสวิตช์ปิดตาย ดับฝันลิงก์เว็บพนัน วัยรุ่นสร้างตัว ลุยค้น 31 จุด ยึดฟาร์มกระบือดีกรีแชมป์มูลค่าหลายพร้อมตรวจยึดของกลางเกือบ 2 พันรายการ มูลค่า 70 ล้านบาท

วันที่15มี.ค.67 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) และ เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แถลงผลปฏิบัติการเข้าค้น 31 จุดทั่วประเทศ จับกุมเว็บพนันกว่า 30 เว็บ ผู้ต้องหา จำนวน 44 ราย ข้อหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่น หรือเข้าพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และร่วมกันฟอกเงิน” รวมทรัพย์สินที่ถูกตรวจยึด 1,913 รายการ มูลค่าประมาณ 69 ล้านบาทสืบเนื่องจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) ตรวจสอบเว็บไซต์ผิดกฎหมายพบว่า  มีผู้ลักลอบเปิดเว็บไซต์ชักชวนให้ประชาชนเล่นการพนันออนไลน์ก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจและสังคม จึงประสานงานกับตำรวจสอบสวนกลางดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย โดย พล.ต.ท.จิรภพ ได้สั่งการให้ทำการสืบสวนโดยละเอียดในทุกมิติ พบว่ามีการกระทำความผิดจริง โดยกลุ่มดังกล่าว เป็นกลุ่มคนที่มีอายุช่วงวัยรุ่นถึงวัยทำงาน มีฐานะร่ำรวยผิดปกติ ภายในช่วงระยะเวลา1-2ปี และจากการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงิน ประกอบกับพยานหลักฐานอื่นเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดจริง จึงนำไปสู่การขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องจำนวน 63 หมายจับ และสามารถขอหมายค้นสถานที่ที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับเว็บพนันจำนวน 31 จุดทั่วประเทศ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางร่วมกับสำนักงาน ปปง. สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ได้จำนวน 44 คน แบ่งเป็นกลุ่มผู้รับผลประโยชน์ 5 คน, กลุ่มเปิดบัญชีม้า จำนวน 24 คน, กลุ่มคนกด-ถอนเงินหน้าตู้เอทีเอ็ม จำนวน 8 คน, กลุ่มพนักงานทำ เว็บพนัน จำนวน 7 คน นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี  ยังพบว่ามีการรับจ้างเปิดม้าให้เเก๊งคอล เเละกลุ่มฟอกเงินต่างๆ เช่นเดียวกันพล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า จากการสอบถามคำให้การเบื้องต้นทราบว่า ผู้ต้องหายอมรับว่า กระทำความผิดจริง โดยแบ่งหน้าที่กันทำเป็นขบวนการ เริ่มตั้งแต่กระบวนการจัดหาบัญชีม้า , เปิดบัญชีม้า, กลุ่มคนทำเว็บพนัน และกลุ่มผู้รับผลประโยชน์ โดยแต่และกลุ่ม ได้รับผลประโยชน์เป็นทรัพย์สินแตกต่างกัน โดยกลุ่มนายหน้าจัดหาบัญชีม้าพร้อมใช้ ต้องมีพาสปอร์ตหรือบัตรประจำตัวประชาชน, สมุดบัญชี, บัตรเอทีเอ็ม, ซิมการ์ดโทรศัพท์พร้อมใช้  ได้รับเงินค่าจ้างจากเจ้าของเว็บหรือผู้จ้าง จำนวน 6,500-15,000 บาท โดยจะเอาเงินไปให้ผู้เปิดบัญชี   เป็นค่าตอบแทนตั้งแต่ 1,500-3,000 บาท ซึ่งบางรายได้เป็นรายเดือน เดือนละ 500 บาท ซึ่งถ้าหากเป็นบัญชีคนไทยจะได้รับค่าตอบแทนที่ต่ำกว่า บัญชีของคนต่างด้าว นอกจากนี้ยังมีลักษณะการเช่าบัญชีม้ารายเดือน เดือนละ 5,000-10,000 บาท หากบัญชีม้าที่กลุ่มนายหน้าจัดหามาเกิดมีการปิดบัญชี หรือไม่ส่งมอบเงินให้ตามที่ตกลง ก็จะมีกลุ่มบุคคลเข้าไปติดตาม ทำร้ายร่างกาย เตะ ต่อย บางครั้งมีการใช้ไม้เบสบอลทุบตีให้ได้รับบาดเจ็บด้วยเช่นกันส่วนกลุ่มผู้ถอนเงินหน้าตู้เอทีเอ็ม จะได้เงินค่ากดเงินครั้งละ 1,000-50,000 บาท เป็นรายครั้ง หากถอนเงินหน้าเคาน์เตอร์ธนาคาร จะได้รับค่าตอบแทนที่สูงกว่า  กลุ่มพนักงานที่ดูแลเว็บฯ จะได้รับค่าตอบแทนรายเดือน รวมกับโบนัสเป็นแรงจูงใจจากเจ้าของเว็บพนัน ซึ่งแล้วแต่ตกลงกัน ขณะที่กลุ่มผู้รับผลประโยชน์จะนำเงินที่ได้จากเว็บพนัน โดยนำไปซื้อทรัพย์สินและเอาไปฟอกในธุรกิจที่ถูกกฎหมาย ซึ่งในกรณีนี้มีการตรวจยึดฟาร์มกระบือสวยงาม ระดับพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ ดีกรีแชมป์การประกวดกระบือ ราคาตัวละหลายล้านบาท พบเปิดมาแล้วหลายปี มีการเผยแพร่ออกสื่อแล้วหลายครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจยึดทรัพย์สิน หลายรายการดังนี้

1.เงินสด พร้อมตู้เซฟนิรภัย รวมจำนวน 8,754,580 บาท

2.เครื่องนับธนบัตร  รวมจำนวน 2 เครื่อง 3.สร้อยทองพร้อมพระเลี่ยมทอง รวมจำนวน 5 เส้น 4.ทองคำแท่งและทองรูปพรรณ หนักประมาณ 65 บาท มูลค่าประมาณ 2,379,000 บาท

5.กระเป๋าและเครื่องประดับแบรนด์เนม จำนวน 20 รายการ

6.โฉนดที่ดิน (อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด 34 ไร่ และ จ.มหาสารคาม 5 ไร่)

7.กระบือพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ชื่อ จ้าวเพชรสาเกต และมีตังค์ รวม 2 ตัว ราคา 5,600,000 บาท 8.กระบือสวยงาม และ โค พันธุ์บารห์มัน 22  ตัว    9.รถยนต์หรู 10 คัน

10.รถบรรทุก 6 ล้อ จำนวน 1 คัน

 11.รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน

12.รถ ATV  2 คัน 

13.อาวุธปืนหลายขนาดรวม  6 กระบอก

14.สมุดบัญชีธนาคาร ที่เป็นบัญชีม้ารวมจำนวน 928 เล่ม

15.บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ATM  675 ใบ

16.โทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต  596 เครื่อง

17.ซิมการ์ดพร้อมใช้ รวมจำนวน 441 ชุด

18.พาสปอร์ตคนต่างด้าว รวมจำนวน 76 ชุด 19.ชุดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ รวมจำนวน 13 เครื่อง

รวมทรัพย์สินที่ถูกตรวจยึด 1,913 รายการ มูลค่าประมาณ 69 ล้านบาท

RELATED ARTICLES