ความจริงของตำรวจสะท้อนถึงการแต่งตั้งโยกย้ายหลายครั้งที่ผ่านมา
บางคนแต่งข้อความประชดชีวิต
สดุดีแด่ วีรกรรมคนทำงาน
“…ฝีมือ บางที ไม่มีประโยชน์
เก่งเท่าไร นายไม่โปรด ก็ย่ำแย่
เรื่องฝีมือ บางที มีข้อแม้
มักพ่ายแพ้ ฝีปาก อยู่ร่ำไป
คัดคนดี มีความรู้ อยู่ในป่า
คัดคนเก่ง คนกล้า อยู่นาไร่
คัดคนซื่อ คนรู้ อยู่ห่างไกล
แล้วเลือกใช้ คนที่ มีปลอกคอ…”
หลายคนท้อแท้ถอดใจ แต่โชคดีได้ “รุ่นพี่” คอยชี้แนะไม่ให้เป๋ออกนอกทิศทางจนเกินกลับมาเข้าสู่รันเวย์ เฉกเช่น พ.ต.อ.เชิดพงษ์ ชิวปรีชา นักสืบหนุ่มมากประสบการณ์ผ่านคดีสำคัญมาไม่น้อย แต่กลับพลอยฟ้าพลอยฝนถูกย้ายจากผู้กำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดระนอง
เข้ากรุเป็นผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการ 9 กองบังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เมื่อปีที่แล้ว
เขายอมรับว่า ได้ข้อคิดจาก พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข สมัยเป็นผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล เขียนให้กำลังใจตำรวจ (นักสืบ) ในคำสั่งที่ อกหัก ผิดหวัง แล้วนำมาแชร์ในโลกโซเชียล
เป็นเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่นายตำรวจหนุ่มโทรไปขอคำแนะนำ เนื่องจากโดนย้ายไปอยู่ฝ่ายอำนายการ
ชีวิตตำรวจมีแน่ ๆ อยู่ 2 อย่างที่เลือกเองไม่ได้ คือ เลือกนายไม่ได้ เลือกงานไม่ได้
“สำหรับผม ผู้บังคับบัญชาผมเลือกไม่ได้ครับ แต่ผมสามารถเลือกใครที่จะเป็น ” นาย ” ผมได้ คุณไม่ดี ไม่มีคุณธรรม ก็เป็นได้แค่ผู้บังคับบัญชา จบแล้วจบกัน ไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ถ้าเป็นนาย…เป็นไปจนตายไปข้างหนึ่ง” เขาว่า
สิ่งที่เราเลือกได้ และใครๆ ก็มาบังคับเราไม่ได้ คือ การเลือกที่จะทำตัวอย่างไร
ไม่ว่าจะมีตำแหน่งดีแค่ไหน ไม่ว่าจะตำแหน่งเลวแค่ไหน มันก็ไม่มีตำแหน่งไหนอยู่กับเราไปตลอดชีวิต
ถึงวันหนึ่งทุกคน ก็ต้องลุกจากไป
เพราะฉะนั้นไม่ว่า จะอยู่ตรงไหนก็ฝากเพื่อนพี่น้องว่า
ขอให้ทำหน้าที่ตรงนั้นให้ดีที่สุด
ให้แสวงหาความสุขในเส้นทางที่เราเดินไป ไม่ว่ามันจะยากลำบากแค่ไหน มันก็คงมีความสุขตกหล่นพอให้เก็บได้บ้าง
จำไว้ว่า คนอื่นอาจจะแต่งตั้งให้เราไปอยู่ที่โน่น แต่จะมาบังคับเราให้ทำตัวอย่างโน้นอย่างนี้ไม่ได้ เราสามารถเป็นตำรวจอย่างที่เราอยากจะเป็นได้
แม้ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่เขาให้เป็น
“ชีวิตที่เกิดมาเพื่อผู้อื่น เป็นชีวิตที่มีคุณค่ามากที่สุด” พ.ต.อ.เชิดพงษ์ ชิวปรีชา บอกรุ่นน้องเสมอ