วันที่ 26 มี.ค.67 พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สั่งการ พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผู้กำกับการ4กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ต.ต.อัครพล ปัทมานุสรณ์ สารวัตรกองกำกับการ4กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สนธิกำลัง ร่วมกับ เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐเข้าจับกุมตัวพ.จ.อ.ชัยยา จันทร์นุช อายุ 53 ปี รองปลัดเทศบาลตำบลหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 ที่ จ.6/2567 ลง 21 มี.ค.2567 ข้อหา “เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับหรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบฯ ” พร้อมของกลางเป็นธนบัตรฉบับละ1000บาท จำนวน 5,000 บาท ที่วางเอาไว้บนโต๊ะทำงาน
มีผู้เสียหายหลายรายได้ร้องเรียนให้ตรวจสอบการเรียกรับสินบนจากบุคคลภายนอกที่ประสงค์สมัครเข้าทำงานเทศบาลหล่มเก่า เจ้าหน้าที่จึงวางแผนสืบสวนจน พบพยานหลักฐานว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์จริง และยังคงทำอยู่ประจำโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย จึงเข้าจับกุมดังกล่าว สอบสวน ผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธไม่รู้เห็น และเชื่อว่าถูกกลั่นแกล้งอันเป็นเรื่องมากจากการเมืองภายใน เพราะปัจจุบันตนรักษาราชการปลัดเทศบาลอำเภอหล่มเก่า ตนยืนยันในความบริสุทธิ์ของตัวเอง และไม่รู้สึกกังวลแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามจึงนำตัวส่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 ดำเนินคดีต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.ศานุวงษ์ เปิดเผยว่า นอกจากจับกุมตัวผู้ต้องหาได้แล้ว ยังตรวจยึดเอกสารและพยานหลักฐานต่างๆ ในห้องทำงานของผู้ต้องหาได้อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์ที่จะสืบสาวไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องที่เหลือได้อีกอย่างแน่นอน
“ส่วนเงินสินบน 2 หมื่นบาท ถ้าผู้เสียหายไม่จ่ายก็จะไม่ได้เข้าทำงาน อาจฟังดูไม่มาก แต่สำหรับลูกจ้างรายวันเป็นเงินที่ค่อนข้างมาก เป็นการขูดรีดที่โหดร้ายเหมือนขูดเลือดกับปู เพราะหากจ่ายเงินส่วนนี้ไปแล้ว การเข้าทำงานที่มีค่าจ้างแค่วันละ 300 บาท รวมทั้งเดือนไม่เกิน 1 หมื่นบาท ก็กลายเป็นว่าต้องมานั่งทำงานให้ฟรีถึง 2 เดือนอีกด้วย” พ.ต.อ.ศานุวงษ์ กล่าว
