เวลาผ่านไป 7 ปี พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รองผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ไม่เคยลืมนาทีแห่งชีวิต
เวลา08.30 น. ของทุกวันทำการ จะเป็นเวลานัดหมายเข้าแถวเคารพธงชาติ ชี้แจงภารกิจ พบปะกันระหว่างหัวหน้าหน่วย ลูกน้องในวันนั้น ๆ
เจ้าตัวดำรงตำแหน่งผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรระแงะ จังหวัดนราธิวาส เป็นช่วงเวลาที่จดจำกับเหตุการณ์รุนแรงที่สุดในชีวิต
เช้าวันที่ 30 มีนาคม 2560 หลังจากร้องเพลงชาติร่วมกัน กล่าวบทปลงใจเรียบร้อย ในขณะนั้นเขารับบทบาทเป็นผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรระแงะ เริ่มพูดคุย ชี้แจงทำความเข้าใจถึงเรื่องราวต่างๆ
ไม่มีเค้าลางอะไรมาก่อนว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น มีแต่เพียงคนมาเตือนให้ระวังตัวให้มาก
มีข่าวว่าจะถูกลอบทำร้ายแต่ก็ถือว่าปกติสำหรับ “ผู้กำกับการฝีปากร้าย” คนนี้ และในพื้นที่ “สีแดง” ใจกลางความไม่สงบ
วินาทีนั้นเห็นรถกระบะตอนครึ่ง มีคนนั่งราบมากับกระบะท้าย 3 – 4 คน ชะลอความเร็วตรงหน้า เงยหน้าไปมองทันทีสงสัยในความไม่เป็นปกตินั้นก็เกิดเหตุรุนแรง 1 ในคนร้ายยกปืน M16 เล็งมาทางเขาพร้อมลั่นไก
เสียงปืนสงครามแผดสนั่นทันที มีเศษปูนหลุ่นลงมา ฝุ่นผงที่เกิดจากกระสุนปืนถูกอาคารฟุ้งไปทั่ว
“ผมทรุดตัวลงหมอบกับพื้นบนบันไดขั้นบนสุด รถยังเคลื่อนต่อไปผ่านป้ายโรงพักที่ช่วยกำบังกระสุนปืน” พ.ต.อ.สุรพงษ์เล่า
ขณะเดียวกันที่ยามหน้าโรงพักได้สวม “หัวใจนักสู้” เดินหน้ายิงปืน HK33 อาวุธประจำกาย “อย่างกล้าหาญ”
เมื่อรถคนร้ายเคลื่อนพ้นป้ายโรงพัก ห่ากระสุนปืน M16 สาดมาอีกชุด เห็นเป็นแนวกระสุนถูกบันไดขั้นบนสุดมาเป็น นัดๆๆๆ จากไกล มาจนนัดสุดท้ายมาจบที่ใกล้ ๆกับแก้มซ้าย รู้สึกถึงแรงอัดของกระสุนกับบันไดหินอ่อนที่หมอบอยู่ ฝุ่นปูนฟุ้งขึ้นมา
หน้าชา ความรู้สึกดับไป เขาคงไม่รอดถ้าถูกคมกระสุนนัดนี้
“สติกลับมาเมื่อลูกน้องโดดขึ้นมาจากพื้นด้านล่างมาคล่อมบนตัวผมแล้วถามว่าผู้กำกับโดนไหม ผมได้ยินพลิกตัวขึ้นมาพร้อมบอกกับพวกเราไปว่า สู้มัน วิ่งออกไปดึงปืนยาวจากใครสักคน ได้รถตำรวจบอกใครพร้อมโดดขึ้นรถมาตามพวกมันไป”
ออกจากโรงพักเป็น 4 แยก ตอนนั้นไม่รู้เลยว่าคนร้ายไปทางไหน ซ้ายไปยี่งอ รือเสาะ ขวาไปเจาะไอร้อง ตรงไปเข้าเมืองนราธิวาส “มีเวลาเพียงเสี้ยววินาทีผมเลือกเลี้ยวซ้าย ตามทันได้ตายกันบ้าง ไม่มันก็พวกเรา”
ปรากฏว่า คลาดกันพวกมันตรงไปทางในเมืองแล้วมีทางลัดเลาะเลี้ยวไปได้ หลักจากนั้นการไล่ล่าก็เกิดขึ้น
7 ปีแล้ว คนก่อเหตุ แถว 1 ที่มาบนรถ “ใช้กรรมด้วยชีวิต” ไปเกือบทั้งหมด เหลือ1 คน คือ นายสือดี ปูเตะ ที่หลบหนีหมายจับอยู่ ยังตามล่าอยู่เหมือนเดิม บอกด้วยว่า ใครให้เบาะแสจนสามารถนำไปสู่การจับกุม
อดีตผู้กำกับเดนตายจากแดนใต้ให้รางวัล 1 แสนบาท
ส่วนแถว 2 พวกร่วมรู้เห็น ดูต้นทาง พวกเขาสามารถระบุตัว ระบุพฤติกรรม มีพยานหลักฐานทั้งพยานบุคคล กล้องวงจรปิด หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ออกหมายจับได้ทั้งหมด ศาลพิพากษาจำคุก น่าจะพ้นโทษมาหมดแล้ว
บ้างก็เสียชีวิตในที่จองจำ
ทางเราสูญเสีย “น้องจอม” พ.ต.ต.ศุภษร สะยุคงทน ในที่เกิดเหตุ
ส่วน “ดาบแห้ง” ด.ต.ธีระพงษ์ แก้วชำนาญ ผู้บังคับหมู่ป้องกันปราบปรามพี่ ครู D.A.R.E. ประจำโรงพัก “สูญเสียดวงตา” ปัจจุบันยังทำงานที่ระแงะอย่างเข้มแข็ง
นับเป็นเวลา 7 ปี แผลเป็นในหัวใจไม่เคยแห้ง มันเจ็บ มันปวดร้าว เสียใจ
ขอดวงวิญญาณน้องจอมไปตกในภพภูมิที่ดี ขอครอบครัวผู้สูญเสียและเสียสละ มีโชคดีมีกำลังมีาเข้มแข็งตลอดไป
พวกท่านเป็นตำรวจที่เสียสละทั้งชีวิต ความสุขส่วนตัวเพื่อนแผ่นดินอย่างแท้จริง
พ.ต.อ.สุรพงษ์ทิ้งท้ายด้วยว่า ใครมีจิตศรัทธาอยากบริจาคช่วยเหลือลูกสาวตำรวจระแงะผู้เสียสละชีวิตสังเวยไฟใต้ ได้ที่ ธนาคารกรุงไทย เลขที่บัญชี 4850390803
ขอคารวะด้วยหัวใจ