วันที่ 4 เม.ย.67 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สั่งการ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ร่วมสั่งการ พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผู้กำกับการ5กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ พ.ต.ต.พิชญากร แตงรอด, พ.ต.ต.สุทธิพงษ์ มอญรัต สารวัตรกองกำกับการ5กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจนำกำลังเข้าจับกุม (MR. ALEXEY VEGMAN) นายอเล็กซี่ เว็กแมน อายุ 40 ปี สัญชาติรัสเซีย ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 1370/2567 ลงวันที่ 1 เม.ย. 2567 ข้อหา “ร่วมกันประกอบธุรกิจบริการการชำระเงินภายใต้การกำกับซึ่งเป็นการให้บริการรับชำระเงินด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่ได้รับอนุญาต“ ได้ที่คอนโดมิเนียม พื้นที่ หมู่12 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี พร้อมกันนี้ยังเข้าตรวจค้นบ้านพักในพื้นที่ ม.4 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง และบ้านพักพื้นที่ ม.10 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยตรวจยึดของกลางเป็นเอกสารเกี่ยวของบริษัท จำนวน 22 รายการ,โน้ตบุ๊ก 7 เครื่อง,โทรศัพท์ 3 เครื่อง,บัตรอิเล็กทรอนิกส์ 6 ใบ,สมุดบัญชีธนาคาร 14 เล่ม,สมุดเช็ค 4 เล่ม และSecure Pass/Token 9 อัน
เนื่องจากก่อนหน้ามีกลุ่มญาติของ น.ส.นวพร (สงวนนามสกุล) ซึ่งได้ฆ่าตัวตายไปก่อนหน้านี้ ได้แจ้งเบาะแสมาว่า ก่อนจะเสียชีวิต น.ส.นวพรได้ชักชวนให้ผู้อื่นนำเงินมาร่วมลงทุนเทรดค่าเงินตราต่างประเทศ หรือ Forex ผ่านตนเอง มีผู้มาร่วมลงทุนด้วยกว่า 20 ล้านบาท ภายหลังปรากฏว่าขาดทุน น.ส.นวพร ไม่มีเงินส่งคืนให้ ทำให้เกิดความเครียดจนตัดสินใจฆ่าตัวตาย ทราบภายหลังว่าผู้ตายนำเงินไปลงทุนกับบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งน่าจะผิดกฎหมายจึงขอให้ตำรวจตรวจสอบ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนจนพบว่า กลุ่มคนร้ายได้เปิดบริษัทแห่งหนึ่งขึ้นมา โดยทำสัญญาการใช้บริการร้านค้า(Bill Payment)กับธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง เพื่อใช้เป็นช่องทางรับชำระเงินระหว่างกลุ่มผู้ร่วมลงทุน ที่ต้องสมัครสมาชิกกับเว็บไซต์ของบริษัทฯ ซึ่งมีผู้สนใจเข้าไปเทรดค่าเงินจนเกิดความเสียหาย ต้องกลายเป็นมีหนี้สินจำนวนมาก จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินบริษัทของผู้ต้องหาพบว่ามีเงินหมุนเวียนระยะเวลาแค่ 3 ปี เกือบ 1 แสนล้านบาท จึงขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดชลบุรี พร้อมเข้าจับกุมนายอเล็กซีดังกล่าว
สอบสวน ผู้ต้องหา ขอให้การปฏิเสธ จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป