ตร.ปคม.บุกจับร้านคาราโอเกะ แปดริ้ว-ฉะเชิงเทรา แฝงค้ากามสาวลาว

วันที่5เม.ย.67 พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ , พ.ต.อ.กรีธา ตันคณารัตน์, พ.ต.อ.สุรพงศ์ ชาติสุทธิ์, พ.ต.อ.วุฒิชัย จันโทภาส, พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล, รองผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ สั่งการ พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ ผู้กำกับการ2กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ต.ต.ณรงเวทย์ จิวเดช เพราะ สารวัตรกองกำกับการ2กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ นำกำลังเข้าจับกุม​  นายมีเกียรติ ด้วงผึ้ง อายุ 46 ปี  น.ส.นิศากร ด้วงผึ้ง พร้อมแรงงานต่างด้าวชาวลาวอีก7ราย ได้ที่ร้านคาราโอเกะในพื้นที่หมู่ 1 ตำบลบางวัว อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยของกลาง ธนบัตรไทย ฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 1 ใบ, ธนบัตร ฉบับละ 500 บาท จำนวน 2 ใบที่ใช้ในการล้อซื้อ ได้ที่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง หมู่ 1 ตำบลบางวัว อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา

พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปคม. สืบทราบว่าร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง อำเภอบางปะกง  จังหวัดฉะเชิงเทรา มีการลักลอบเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีการขายบริการทางเพศให้กับลูกค้า ก่อนแฝงตัวเป็นลูกค้าเข้าไปใช้บริการภายในร้านดังกล่าว โดยได้นั่งดื่มกินภายในร้าน ต่อมา น.ส.วอน หรือมิ้น สัญชาติลาว ได้มาเสนอขายบริการทางเพศโดยคิดค่าบริการทางเพศในราคา 2,000 บาท โดยทางร้านจะได้รับส่วนแบ่ง จำนวน 400 บาท จ่ายค่าโรงแรม 280 บาท ส่วนที่เหลือจะเป็นค่าตัวของ น.ส.วอนฯ เมื่อมีการตกลงชื้อขายบริการทางเพศแล้ว ต่อมานายมีเกียรติฯ เจ้าของร้านจะขับรถจักรยานยนต์พาไปส่งที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เพื่อร่วมประเวณี จึงได้ส่งสัญณาณให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จากการตรวจสอบพบ น.ส.นิศากร และนายมีเกียรติ แสดงตัวว่าเป็นผู้ดูแลร้านดังกล่าว จึงขอตรวจสอบเอกสารการเปิดสถานบริการ แต่ ไม่สามารถนำเอกสารดังกล่าวมาแสดงจึงทำการจับกุมตัวได้ดังกล่าว

 

สอบสวน น.ส.นิศากร และนายมีเกียรติ ให้การรับสารภาพว่า ตนเองได้ขอเปิดสถานบริการดังกล่าวจริงและใบอนุญาตให้เปิดสิ้นสุดลงนานแล้วแต่ไม่ได้ไปต่อใบอนุญาตใหม่ ส่วนหญิงสาวชาวลาวทั้ง7 ราย ให้การยอมรับว่า เป็นคนสัญชาติลาวได้เข้ามาในราชอาณาจักรในสถานะนักท่องเที่ยว และไม่มีใบอนุญาตให้ทำงานแต่อย่างใด เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหา น.ส.นิศากร และนายมีเกียรติ ว่า “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นประทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม และไม่ว่าการกระทำต่างๆ อันประกอบเป็นความผิดนั้นจะได้ประทำภายในหรือนอกราชอาณาจักร, ร่วมกันรับบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนหญิงสาวสัญชาติลาวจำนวน 7ราย ได้แจ้งข้อกล่าวหา ว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน” ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 9 คน ส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจบางปะกง เพื่อดำเนินคดีต่อไป

 

RELATED ARTICLES