“จับม้าเข้าคอก” สืบนครบาล ร่วมกับ สืบจังหวัดตรัง และสืบภาค7 ระดมจับบัญชีม้า

ตามนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รรท.ผบ.ตร.  ,พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมทางออนไลน์ ที่มีพฤติกรรมการฉ้อโกลหลอกลวงประชาชนในสื่อสังคมออนไลน์ รวมถึง บัญชีม้า ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก.

วันที่10เม.ย.67 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้สั่งการ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษกองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล  พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี, พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รองผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษกองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล  พ.ต.ท.พิทักษ์ ศรีกะแจะ สารวัตรกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษกองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล  พ.ต.ท.สัญญลักษ์ สังขะภักดี สารวัตรกองกำกับการสืบสวน3กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมกับ สืบจังหวัดตรัง สืบภาค7 ระดมจับผู้ต้องหาบัญชีม้า 8 ราย 13 หมายจับ ดังนี้

น.ส.นิศาชล หรือพลอยชมพู   ผิวขาว อายุ 21 ชาวจังหวัดกาญจนบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดตรังที่ จ.31 / 2567   ลงวันที่ 6 ก.พ. 2567 ข้อหา”ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่จะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” สภ.เมืองตรัง

นายวีรพงศ์  บุญแก้ว อายุ 21 ปีที่อยู่ ชาวจังหวัดตรัง ตามหมายจับของศาล จว.ปราจีนบุรี ที่ จ.82/2565 ลงวันที่ 22 มี.ค.65 ข้อหา “ร่วมกันหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ,ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ”  นำตัวผู้ต้องหาส่ง สภ.ศรีมหาโพธิ

นายอภิรักษ์  เศษคง  อายุ 20 ปีที่อยู่ จังหวัดสตูล ตามหมายจับของศาลจังหวัดปราจีนบุรี ที่ จ.71/2565 ลงวันที่ 22 มี.ค. 65 ข้อหา”ร่วมกันโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ,ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ” นำตัวผู้ต้องหาส่ง สภ.ศรีมหาโพธิ

น.ส.จันทร์วลัย ละโว้  อายุ 20 ปี จังหวัดตรัง ทั้งหมด 3 หมายจับ ตามหมายจับของงศาลจังหวัดอุทัยธานี ที่ จ.132/2566 ลงวันที่ มิ.ย. 66ม, ศาล จ.พะเยา ที่ 50/2566 ลงวันที่ มี.ค.66 , ศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ จ.8/2567 ลงวันที่ 10 ม.ค. 67 ข้อหา”ข้อหา”ฉ้อโกงผู้อื่นและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ” นำตัวผู้ต้องหาส่ง สภ.เมืองอุทัยธานี

น.ส.สมฤทัย  สุวรรณรักษ์ อายุ 26 ปี ที่จังหวัดกาญจนบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรีที่ จ.558/2559 ลงวันที่ 25 สิงหาคม 2559 ข้อหา ” ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น” นำตัวผู้ต้องหาส่ง สภ.ท่าเรือ

น.ส.เกสราภรณ์  ไชยเชียงพินอายุ 21 ปี ชาวจังหวัดตรัง จำนวน   4 หมายจับ! ศาล อาญากรุงเทพใต้ที่ 228/2566 ลงวันที่ 24 มี.ค.66, ศาล แขวงธนบุรี ที่ 332/2565 ลงวันที่ 31 ต.ค. 65, ศาลจังหวัดแพร่ ที่ จ.274/2565 ลงวันที่ 19 ก.ค. 65, ศาลจังหวัดศรีสะเกษที่ จ.336/2565  ลงวันที่ 20 ต.ค.65 ข้อหา ” ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นผู้อื่น” “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์,ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายมิได้กระทำต่อประชาชนแต่กระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง”นำตัวผู้ต้องหาส่ง สน.บางรัก

น.ส.กฤติยา นวลคำ อายุ 40 ปี ที่จังหวัดนครสวรรค์ ตามหมายจับศาลแขวงตรัง ที่ จ 5/2567 ลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567  ข้อหา “ ฉ้อโกง และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น” นำส่ง สภ.เมืองตรัง

นางกัลย์นภัส ภูสกุลวัฒน์ อายุ 51 ปี ชาวจังหวัดสุพรรณบุรี ตามหมายจับของศาลจังหวัดตรัง ที่ 18/2567 ลงวันที่ 19 มกราคม 2567 ข้อหา “ฉ้อโกง ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, ฉ้อโกงประชาชน, โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน นำส่ง สภ.เมืองตรัง สอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมด ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ฝากเตือน 5 สิ่งที่จะเกิดขึ้น หากท่านรับจ้างเปิดบัญชีม้า ดังต่อไปนี้ 1.ถูกดำเนินคดี ตามมาตรา 9 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.ถูกดำเนินคดีตามฐานความผิดที่มิจฉาชีพนำบัญชีท่านไปใช้ ในฐานะเป็นตัวการร่วม หรือผู้สนับสนุนในการกระทำความผิด 3.มีประวัติอาชญากรรรมติดตัว 4.ถูกดำเนินคดีหลายท้องที่ ตามที่มิจฉาชีพได้นำไปใช้หลอกลวงผู้เสียหาย 5.ถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งจากผู้เสียหาย

RELATED ARTICLES