จับกุมชาวเกาหลีใต้หนีคดีค้ายาฯข้ามชาติ ร่วมแก๊งผิวสี หลอกลงทุนทองคำ ก่อนออกอุบายแอบสลับกระเป๋าเงินปลอม ได้เงินไป 1.1ล้านบาท

วันที่ 10 เม.ย.67 พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ต.ประพันธ์ศักด์ิ ประสานสุข ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง1 พ.ต.อ.ปริญญา กลิ่นเกษร รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง1  พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พ.ต.อ.รัฐพงษ์ แก้วยอด ผู้กำกับการ4กองบังคับการสืบสวนสอบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสาคัญ

พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวว่า คดีแรกตามเช็คบิลสามีภรรยาฟิลิปปินส์หัวใสลอบส่งออกกัญชา พบอยู่เกินคนละกว่า 9 ปี จับกุมนายโจ (นามสมมติ) อายุ 35 ปี สัญชาติฟิลิปปินส์ และนางแมรี่ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี สัญชาติฟิลิปปินส์ โดยกล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตส้ินสุด นาตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ ดาเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม ทาวน์โฮมย่านซอยอ่อนนุช 65 แยก 14 แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯ สืบเนื่องจากเมื่อประมาณต้นปี 2567 สำนักงานศุลกากร ในประเทศฟิลิปปินส์ จับกุมกัญชาอบแห้งล็อตใหญ่ บรรจุอยู่ในลังพัสดุซีน แน่นหนา น้าหนักรวมกว่า 10 กิโลกรัม แต่เมื่อถึงประเทศฟิลิปปินส์จะมีมูลค่ามากถึง 1,200 เปโซต่อกรัม หรือประมาณ กรัมละ 975 บาท รวมมูลค่าเกือบ 10 ล้านบาท และกัญชาที่ถูกตรวจยึดดังกล่าวมาจากบริษัทขนส่งพัสดุแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ในย่าน ท่ีมีชาวฟิลิปปินส์พักอาศัยอยู่จำนวนมาก ชุดจับกุมจึงลงพ้ืนที่หาข่าวจนทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองเป็นคนนำส่งพัสดุดังกล่าว พักอาศัยอยู่ในทาวน์โฮม ซอยอ่อนนุช 65 แยก 14 แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯ จึงติดตามจับกุมตัวไว้ได้ เมื่อตรวจสอบข้อมูลพบว่าทั้ง 2 ราย อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตส้ินสุดแล้วกว่า 9 ปี และยังถูก สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองขึ้นบัญชีรายชื่อเป็นบุคคลต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นเวลานานถึง 10 ปี ตามคาสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ 1/2558 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2558

พล.ต.ต.พันธนะ กล่าต่อว่า คดีที่สอง  สืบ ตม. ตะครุบแก๊งผิวสีหลอกขายทองคาอาศัยทีเผลอแอบสลับเงินปลอม กว่า 1.1 ล้านบาท กก.1 บก.สส.สตม. จับกุมและเพิกถอนวีซ่า นายคานู (นามสมมติ) อายุ 42 ปี สัญชาติเซียร์ราลีโอน ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.129/2567 ลงวันที่ 5 ก.พ.2567 ข้อหา ลักทรัพย์ โดยร่วมกระทาความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป พร้อมกับ เพิกถอนวีซ่าของนายซีเซ่ (นามสมมติ) อายุ 32 ปี สัญชาติไลบีเรีย หลังหลอกให้ลงทุนซื้อขายทองคา แล้วถูกแอบสลับเงินนาธนบัตรดอลลาร์สหรัฐปลอมมาแทน สูญเงินกว่า 1.1 ล้านบาท จับกุมได้ คอนโดย่าน อโศก – รัชดา (พระรามเก้า) ถ.อโศกดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ดาเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวต่อีกว่า ส่วนคดีสาม รวบหนุ่มแดนโสมส่งยาเสพติดออกนอกประเทศ overstay 11 ปี บก.สส.สตม. ได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายประสานงานตำรวจสากลสาธารณรัฐเกาหลีใต้ ประจำกองการต่างประเทศ สานักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า ได้รับแจ้งจากสายลับมีชายชาวเกาหลีไต้ ก่อเหตุลักโทรทัศน์ใน คอนโดมิเนียมที่ชายชาวเกาหลีไต้นั้นเช่าพักอาศัยแล้วนาไป ผู้เสียหายได้ไปแจ้งความไว้แล้วที่ สน.พระโขนง ต่อมาทราบว่า คนร้ายคือ นายลี ซึ่งการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้สิ้นสุดลงแล้วเป็นเวลา 4,004 วัน และเข้าพักอาศัยอยู่ที่ โรงแรมย่านสุขุมวิท ซอย 3 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ จึงนำกำลังจับกุมได้ดังกล่าว จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า นายลี สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 42 ปี เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของทางการเกาหลีใต้ในความผิดฐาน “ขนส่งยาเสพติดข้ามชาติ” และเป็นบุคคลที่องค์การตำรวจสากลได้ออกประกาศสีแดง (INTERPOL Red Notice) นอกจากนี้ยังได้ร่วมกับชาวผิวสี ที่หลอกลงทุนซื้อขายทองคำ ที่สลับเปลี่ยนเงินปลอมให้ผู้เสียหายอีกด้วย

RELATED ARTICLES