บุกรวบท้าวแชร์แสบ “บ้านออมลิตานายทุนราย 4 วัน” หลอกลงทุนให้ดอกเบี้ยสูงมาก มีผู้เสียหายหลงเชื่อกว่า 40 ราย

วันที่ 15เม.ย.67 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สั่งการ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษกองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี , พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รองผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษกองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.ต.ทศรัสมิ์ กิติธารา สารวัตรกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษกองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล นำกำลังจับกุมตัว นางสาวลิตา รอดพันธ์ุ อายุ 27 ปี ตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ 1064/2564 ลงวันที่ 9 ธันวาคม 2564  ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” ได้ที่บริเวณลานจอดรถ หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง ตำบลโพสะ อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง ก่อนการจับกุมเมื่อประมาณเดือนตุลาคม 2564 น.ส.ลิตา ได้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Lita Rodphan” โพสเชิญชวนบุคคลทั่วไปที่อยู่ในกลุ่มเฟซบุ๊กให้ร่วมลงทุนออมเงินออมทอง โดยใช้ชื่อทุนว่า”บ้านออมลิตา V.3 นายทุนราย 4 วัน” ถ้าหากลงทุน 100,000 บาท จะได้รับเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยคืนเป็นเงินจำนวน 137,000 บาททุกวันจำนวน 4 วันโดยแบ่งจ่ายวันละ 34,250บาท ต่อมามีผู้เสียหายสนใจหลงเชื่อจึงร่วมลงทุนกับ น.ส.ลิตา จำนวน 100,000 บาท แต่เมื่อถึงกำหนดคืนเงิน น.ส.ลิตา ได้ผัดผ่อนเรื่อยมา และไม่สามารถติดต่อได้ ผู้เสียหายจึงรู้ตัวว่าถูกหลอก เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับน.ส.ลิตา จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า หลังก่อเหตุได้หลบหนีกบดานอยู่ในพื้นที่ อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง จึงนำกำลังจับกุมได้ดังกล่าว

สอบถาม ผู้ต้องหาให้การรับว่า ได้เปิดบ้านวงแชร์ออมเงินออมทองจริง และไม่ได้คืนเงินให้กับผู้เสียหาย เพราะได้นำเงินไปลงทุนกับท้าวแชร์อีกเจ้า ที่บอกให้ตนหาลูกค้าให้ และตอนนี้ตนกำลังขายทรัพย์สินเพื่อนำเงินไปคืนผู้เสียหาย แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จากการสืบสวนทราบว่า ก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาเคยไปทำงานเป็นแอดมินเว็บพนันในประเทศเพื่อนบ้าน ปัจจุบันหันมาประกอบอาชีพขายของออนไลน์ และยังมีหมายจับในลักษณะเดียวกันอีก 3 หมาย

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ขอฝากเตือนว่า โลกปัจจุบันที่ประชาชนเข้าถึงสื่อสังคมออนไลน์มากขึ้น จึงมีมิจฉาชีพหลอกลวงประชาชนผ่านการเล่นแชร์ออนไลน์ โดยจะมีการโฆษณาชักชวน ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยมิจฉาชีพจะอ้างว่าได้ผลกำไรสูง ในระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งมิจฉาชีพมักจะทำให้ตายใจด้วยการจ่ายผลตอบแทนตามที่โฆษณาไว้เพื่อเป็นการหลอกให้ลงทุนสูงขึ้น และบางคนถึงขั้นไปชักชวนญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงมาร่วมลงทุนอีกด้วย ซึ่งสุดท้ายมิจฉาชีพมักจะอ้างว่าธุรกิจขาดทุน มีปัญหา จึงไม่สามารถส่งเงินได้ตามปกติ พร้อมทั้งบอกกับผู้เสียหายว่าอย่าเพิ่งแจ้งความ สุดท้ายจะตัดการติดต่อและหลบหนีไปในที่สุด

RELATED ARTICLES