สาวไส้เน่าเขย่าเครดิต

 

มีเรื่องตีแผ่เบื้องลึกเบื้องหลัง “ความเน่าเฟะ” ของกระบวนการสรรหากรรมการของ “องค์กรอิสระ” บางหน่วย

เมื่อ “นายพลคนดัง” ยื่นหนังสือขอคัดค้านการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการคนหนึ่งในองค์กรอิสระและขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม

ยุติความสัมพันธ์ดุจดั่งน้ำต้มผักที่เคยหวานกลับกลายเป็นขม

ทั้งสองมาเจอกันจากคำแนะนำของคนรู้จักฝากฝังให้ไปพบ นักการเมืองใหญ่ระดับประเทศ เพราะอีกฝ่ายจะลงสมัครชิงเก้าอี้กรรมการที่ว่างอยู่ ทว่าคุณสมบัติด้อยกว่าคู่แข่ง ต้องพึ่งพาบารมีนายพลตำรวจที่มีความสนิทสนมเข้านอกออกในบ้าน

รายงานตัวชื่อตำแหน่งเรียบร้อย นักการเมืองใหญ่ถามตามข้อมูลที่นายตำรวจคนสนิทเกริ่นไว้ก่อนหน้า

“อยากเป็นกรรมการ…หรือ”

“ครับ ขออนุญาตมารับใช้ท่าน” เจ้าตัวไม่มีอ้อมค้อม

“งั้นไปสมัครมา”

ผลการคัดเลือกเขาได้เป็นกรรมการองค์กรอิสระตามที่วาดหวังไว้ ผ่านมติคณะกรรมการคัดสรรเรียบร้อย นายตำรวจคนเดิมอ้างว่า พาไปพบนักการเมืองที่บ้านนำพวงมาลัยเข้าไปกราบขอบพระคุณที่ได้ช่วยเหลือสนับสนุนให้ดำรงตำแหน่ง พร้อมจะรับใช้ทุกอย่าง หากมีอะไรให้สั่งผ่านนายตำรวจคนสนิทที่พาเข้าไปได้

หลังจากนั้นไม่นาน อีกฝ่ายเริ่มมีปัญหาไม่ลงรอยกับนายพลผู้มีพระคุณ เมื่อแจ้งว่า ตัวเองถูกร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมและการปฏิบัติหน้าที่หลายเรื่องอยากให้ไปคุยกับกรรมการผู้พิจารณาความ แต่พอประสานไปยืนยันไม่ทราบเรื่อง  น่าจะเข้าใจผิดไปเอง

นายพลตำรวจหนุ่มกลับถูกต่อว่าไปเชื่อคนนอกไม่เชื่อคนใน พร้อมสั่งว่า “พี่ต้องไปจัดการเรื่องนี้ให้ผม อย่าให้มีเรื่องร้องเรียนผมอีก พี่ต้องเอาคนที่ร้องเรียนผมออกมาจัดการด้วย”

ประโยคนี้นายพลตำรวจยอมรับว่า ทำความไม่พอใจกับเขา เพราะพูดเหมือนสั่งโดยไม่มีเหตุผล

กลายเป็นเรื่องระหองระแหงกินแหนงแคลงใจกัน  สุดท้ายอีกฝ่ายกล่าวอาฆาต “อย่ามีเรื่องมาพึ่งพาผมบ้างก็แล้วกัน”

จากนั้นต่างคนต่างแยกย้ายไม่ได้ติดต่อกันอีก กระทั่งมีเรื่องกล่าวหานายพลคนดังกับลูกน้องที่ต้องเข้าสู่กระบวนการสอบข้อเท็จจริงในมือของกรรมการอิสระคู่กรณีท่านนี้ เป็นเหตุให้มองว่าเกิดความไม่เป็นธรรม เนื่องจากมีขัดแย้งโกรธเคืองอย่างชัดแจ้ง

“ข้าพเจ้าขอคัดค้านการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการพิจารณาหรือวินัยฉัยเรื่องกล่าวหาหรือคดีในกรณีที่ข้าพเจ้าและคณะตำรวจที่ถูกกล่าวหาที่เกี่ยวพันกับข้าพเจ้าทุกเรื่อง เนื่องจากข้าพเจ้าเห็นว่า มีสาเหตุโกรธเคืองกับข้าพเจ้าตามเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น”

เขาระบุด้วยว่า พฤติกรรมของคู่กรณีตั้งแต่ก่อนเข้ามาดำรงตำแหน่งและขณะดำรงตำแหน่งกรรมการในองค์กรอิสระเป็นบุคคลที่มีประวัติและพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่

ขอให้คณะกรรมการส่งเรื่องไปยังประธานรัฐสภาดำเนินการตรวจสอบพฤติกรรมด้วย

ลากเข้าสู่เกมดิสเครดิตกระจายพิษเยี่ยงหมาจนตรอก

 

 

 

RELATED ARTICLES