พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม สั่งการ พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผู้กำกับการ1กองบังคับการปราบปราม พ.ต.ท.สมเดช สาระบรรณ์ รองผู้กำกับการ1กองบังคับการปราบปราม พ.ต.ต.เอกรัฐ จันทร์มณี สารวัตรกองกำกับการ1กองบังคับการปราบปราม นำกำลังจับกุม น.ส.อัญธิกา มุ่งดี อายุ 30 ปี ตามหมายจับของศาลอาญามีนบุรี ที่ 516/25 ลงวันที่ 3 เม.ย.2567 ข้อหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่น”
พฤติการณ์เมื่อกลางปี 2566 นายเอ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย ได้กู้เงินนอกระบบจากซ้อส้มมา 1 หมื่นบาท ซึ่งต้องส่งเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยเป็นรายวัน จำนวน 24 งวด งวดละ 500 บาท ระหว่างที่ส่งจนใกล้จะครบแล้ว ซ้อส้มก็เสนอให้ผู้เสียหายกู้อีก 2 ครั้ง รวมทั้งหมด 3 ครั้ง คิดเป็นเงินต้น 70,000 บาท ผู้เสียหายต้องจ่ายเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยตกวันละ 1,500 บาท มาจนถึงปลายปี 66 รวมเงินที่จ่ายไปแล้วประมาณ 150,000 บ. คิดเป็นดอกเบี้ยร่วมแล้ว กว่า 300% ต่อปี 
ทำให้ผู้เสียหายเริ่มจ่ายหนี้ไม่ไหวต้องผิดนัดหลายครั้ง ซ้อส้มจึงส่งลูกน้องมากดดันให้มอบทรัพย์สินที่มีอยู่ให้แทนดอกเบี้ย เช่น โทรศัพท์มือถือ, รถมอเตอร์ไซค์ จนมาเมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา ซ้อส้มทำทีติดต่อขอซื้อกล้องวงจรปิดที่ผู้เสียหายเคยโพสต์ขายผ่านทางเฟซบุ๊ก พร้อมนัดหมายดูสินค้าที่ ปากซอยพระยาสุเรนทร์ 38 แต่ถึงเวลานัดมีกลุ่มชายฉกรรจ์ 4 คน และผู้หญิง 2 คน หนึ่งในนั้นคือซ้อส้ม ได้ลงมารุมกระทืบผู้เสียหายจนบาดเจ็บสาหัสต้องนอนพักรักษาตัวนานกว่า 2 เดือน ก่อนเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลคันนายาว เพื่อดำเนินคดีกับซ้อส้มและพวก ต่อมาซ้อส้มพร้อมนายมาร์ค สมุนคนสนิทก็เข้ารับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย ฯ และยังเหลือผู้ต้องหาอีก 4 รายที่ยังตามจับกุมไม่ได้ พนักงานสอบสวนขออนุมัติออกหมายจับเอาไว้ กระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า น.ส.อัญธิกา เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหา จึงขอหมายค้นบ้านพักย่านบางมด แขวงทุ่งครุ กทม.พบหลักฐานเสื้อผ้าที่ผู้ต้องหาสวมใส่วันเกิดเหตุจึงทำการจับกุมทันที
สอบสวน ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพอ้างว่า วันเกิดเหตุตนขับรถเก๋งของแม่ไปส่งผ้าให้ซ้อส้ม และได้ชักชวนตนไปรับกล้องวงจรปิดที่สั่งซื้อเอาไว้ โดยตนไม่ทราบถึงเหตุการณ์ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลคันนายาว ดำเนินคดี
