พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองบัญชาการตำรวจนครบาล สั่งการ พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล6 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล6 พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.อรรชวศิษฏ์ ศรีบุณยมานนทน์ ผู้กำกับการสืบสวน3กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.ทศพล อำไพพิพัฒน์กุล ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฏร์ พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ รอดเข็ม ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล6 สนธิกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบจังหวัดนนทบุรี จับกุม นายบี (นามสมมติ )อายุ 16 ชาวจังหวัดนนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลเยาวชนและครอบครัว ที่ 51/2567 ลงวันที่ 24 เมษายน 2567 ข้อหา ปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธในเวลากลางคืน เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายสาหัส, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น เพื่อความสะอวกในการที่จะกระทำผิดอย่างอื่นหรือเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน และร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร ได้ที่ริมถนนราชพฤก์-นนทบุรี1 ตำบลสวนใหญ่ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี
ก่อนจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์ ได้รับแจ้งเหตุกลุ่มคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น 3 คน สวมเสื้อแต่งกายมิดชิดร่วมกันปล้นทรัพย์ผู้เสียหายเป็นคนขับรถรถแท็กซี่ ที่บริเวณ หน้าซอยตรอกไข่ ถนนบำรุงเมือง แขวงสำราญราษฎร์ เขตพระนคร กทม. โดยคนร้ายได้ชกต่อย ใช้อาวุธมีดแทงผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บสาหัส ได้เงินสด พร้อมโทรศัพท์มือถือไป หลังจากนั้นกลุ่มคนร้ายยังได้ก่อเหตุ กับผู้เสียหายอีกรายซึ่งเป็นเด็กปั้มฯ ได้ใช้อาวุธมีดจี้ไปที่ลำคอ และชกต่อย ที่บริเวณหลังศาลาว่าการกรุงเทพ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม. ปล้นเอาโทรศัพท์มือถือ แล้วขึ้นรถสาธารณะที่ขับผ่านมาหลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสืบสวนทราบว่ากลุ่มคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุดังกล่าวมี นายบี ผู้ต้องหารายนี้อายุ 16 ปี ร่วมกับ นายซี (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี และนายนพพร หรืออาร์ม ทองภิลา อายุ 23 ปี จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 3 รายไว้ กระทั่งสืบทราบว่า นายบีได้หนีกบดานอยู่ในพื้นที่ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี จึงนำกำลังติดตามจับกุมได้ดังกล่าว
สอบสวนผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันปล้นทรัพย์คนขับรถแท็กซี่พร้อมกับเพื่อนอีก 2 คน จริง โดยที่ตนเองเป็นผู้ใช้อาวุธมีดจ้วงแทงคนขับรถแท็กซี่ และใช้อาวุธมีดจี้ลำคอเด็กปั้มฯ ก่อนที่จะหลบหนี ส่วนอาวุธมีดนได้โยนทิ้งลงแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณสะพานพระราม 7 ในวันก่อเหตุ ส่วนคนร้ายอีก 2 คน คือ นายซี (นามสมมติ) อายุ 18 ปี และนายนพพร หรืออาร์ม ทองภิลา อายุ 23 ปี
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า จากการตรวจสอบประวัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายมีหมายจับอยู่แล้วจึงเร่งติดตามจับกุมตัวไว้ได้ หลังถูกจับกุม ทั้ง 3 รายให้การรับสารภาพว่า คืนก่อเหตุได้เกิดความคึกคะนองชักชวนกันไปปล้น ซึ่งกลุ่มคนร้ายทั้ง 3 เป็นกลุ่มวัยรุ่นที่มีประวัติโชกโชนตั้งแต่อายุยังน้อย เข้าออกสถานพินิจเป็นอาจิน มีพฤติกรรมชอบรวมกลุ่มกันเสพยาเสพติดทั้งวันทั้งคืน เมื่อมีอาการมักจะคึกคะนอง ชอบใช้ความรุนแรงทะเลาะต่อยตีผู้คนไม่เลือกหน้า มีคู่อริไล่ทำร้าย ใช้อาวุธมีดไล่ฟันอยู่เป็นประจำ จนคนในระแวกท่าน้ำนนท์ จ.นนทบุรี รู้จักกันเป็นอย่างดีถึงวีรกรรมของวัยรุ่นกลุ่มนี้
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ควบคุมงานสืบสวนสั่งให้ สืบนครบาล และ สืบ บก 6. บูรณาการไล่ล่าแก็งอันธพาลเยาวชนนี้ ได้เข้ามาก่อนเหตุในย่านสำราญราษฎร์ จึงได้ประสานข้อมูล และการปฏิบัติกับสืบจังหวัดนนทบุรี จึงพบว่ามีประวัติสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ทั้งในพื้นที่นนทบุรี และเขตกรุงเทพฯ พฤติกรรมอุกอาจประสงค์ต่อทรัพย์ และทำร้ายเหยื่อ และฝากเตือนให้ พ่อ แม่ ผู้ปกครองช่วยควบคุมบุตร หลานของท่านให้อยู่ภายในกรอบ ไม่ควรปล่อยบุตร หลาน ของท่าน ให้มีการรวมตัว และชักชวนกันไปกระทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย กระทั่งก่อผลเสียให้กับสังคม นอกจากจะต้องเสียอนาคตก่อนวัยอันควร จะเป็นเหตุให้ผู้ปกครองต้องถูกดำเนินคดีอีกด้วย