พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม สั่งการ พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผู้กำกับการ2กองบังคับการปราบปราม พ.ต.ท.เนติวิทย์ ธนาสิทธิ์นิติกุล รองผู้กำกับการ2กองบังคับการปราบปราม พ.ต.ท.กรพงศ์ วงษาลังการ, พ.ต.ต.อัครวุฒิ จันทร์เจริญ, พ.ต.ต.เอื้ออังกูร ชินโชติธีรนันท์, พ.ต.ต.วรัท เสริมสุจริต, พ.ต.ท.สรศักดิ์ แสงจันทร์ สารวัตรกองกำกับการ2กองบังคับการปราบปราม สนธิกำลัง เจ้าหน้าที่ กองกำกับการ3กองบังคับการปราบปราม เจ้าหน้าที่ กองกำกับการ1 และกองกำกับการ2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เจ้าหน้าที่ สำนักงานป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน กว่า 100 นาย กระจายกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมายจำนวน 7 จุด ในพื้นที่ จังหวัดปทุมธานี 5 จุด จังหวัดนครนายก 1 จุด และ จังหวัดนครราชสีมา 1 จุด จับกุม นายธชธร เนื้อเย็น อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ร่วมกันฟอกเงิน” และ น.ส.นภษร หรือไข่มุก เนื้อเย็น อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ลักทรัพย์นายจ้าง, ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ, ฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน” สองสามีภรรยา หลังพบการทุจริตเงินบริษัทแปรรูปแหนมดอนเมือง เสียหายเกือบ 400 ล้านบาท
สืบเนื่องจากเมื่อปี 2566 บริษัทแปรรูปแหนมดอนเมือง ซึ่งเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์แปรรูปแหนมยักษ์ใหญ่ชื่อดัง ก่อตั้งมานานกว่า 40 ปี ได้ตรวจพบความผิดปกติภายในบริษัท จึงส่งตัวแทนเข้าร้องทุกข์กับตำรวจ กก.2 บก.ป. เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนมีการจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแสเรื่อยมา จนกระทั่งทราบว่า น.ส.นภษร ซึ่งเป็นหลานสาวแท้ๆของเจ้าของบริษัทฯ ที่มอบหมายให้มาทำหน้าที่ดูแลด้านการเงินและบัญชีรายรับ-รายจ่าย เป็นผู้ทุจริตลักทรัพย์เงินของบริษัทเสียเอง จากแนวทางสืบสวนเจ้าหน้าที่พบหลักฐานว่า น.ส.นภษร มีการโอนเงินจากบัญชีธนาคารของบริษัท และ นำเช็คของบริษัทฯ ซึ่งออกไว้เพื่อใช้ชำระค่าสินค้าแก่คู่ค้าของบริษัทโอนเข้าบัญชีธนาคารส่วนตัว รวมถึงทำการเบิกเงินสดตามรายการใบแจ้งหนี้ของบริษัทคู่ค้า แต่ไม่ได้นำไปจ่ายจริง ก่อนนำเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง ซึ่งจากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า น.ส.นภษร ได้เริ่มทุจริตลักษณะดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปี 2566 เป็นจำนวนรวมกว่า 1,000 ครั้ง ได้เงินไปประมาณ 396,229,584 บาท ก่อนจะมีการยักย้ายถ่ายเทเปลี่ยนเป็นทรัพย์สินต่างๆ เช่น ที่ดินแปลงใหญ่ในพื้นที่ จ.นครนายก บ้านและรถยนต์หรู รวมถึงทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ อีกหลายรายการ ซึ่งทรัพย์สินบางส่วนมีชื่อ นายธชธร สามีเป็นผู้ครอบครอง
โดยเป้าหมายสำคัญอยู่ที่บ้านเลขที่ 1128/161 หมู่บ้าน คาซ่าวิลล์ รังสิต-คลองสอง อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของผู้ต้องหา ทันทีที่เจ้าหน้าที่ไปถึงพบบ้านหลังดังกล่าวมีลักษณะเป็นบ้านหรู สองชั้น ขนาดใหญ่ มีรั้วรอบขอบชิด แต่มีการเปิดประตู่รั้วทิ้งไว้อย่างผิดปกติ จึงกระจายกำลังเข้าปิดล้อม พร้อมตรวจสอบบริเวณรอบตัวบ้านแต่ไม่พบบุคคลใด จึงเร่งแกะรอยพบทั้งคู่ได้ขับรถออกจากบ้านพักไปตั้งแต่เมื่อช่วงเช้ามืด เพื่อมุ่งหน้าเดินทางไปทางไปทำบุญวันคล้ายวันเกิดแม่ของ น.ส.นภษร ที่ วัดชัยเภรีย์ ต.พลับพลาไชย อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี จึงประสานกำลังตำรวจทางหลวง ติดตามจับกุมได้ดังกล่าว
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้แบ่งกำลังอีกส่วนหนึ่ง เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 55/70 ม.1 หมู่บ้านพิศภิมุข ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของพี่สาว น.ส.นภษร เพื่อสืบหาทรัพย์สินที่เชื่อว่าน่าจะได้มาจากการกระทำผิด จากการตรวจค้นพบรถหรูยี่ห้อปอร์เช่ รุ่นคาเยน ของ น.ส.นภษร จอดเก็บไว้อยู่โรงจอดรถข้างบ้าน จำนวน 1 คัน จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินที่เชื่อว่าน่าจะได้มาจากการกระทำผิดหลายรายการ โดยเฉพาะบ้านพัก โฉนดที่ดิน และ รถหรูยี่ห้อต่างๆหลายคัน เพื่อนำมาตรวจสอบการได้มาซึ่งทรัพย์สินเหล่านี้ให้แน่ชัด
