รวบอดีตตำรวจ ผันตัวเป็นมือปืน หนีคดีอุ้มฆ่า 2 วัยรุ่นทิ้งศพในทะเลสาบสงขลา

พล.ต.ต.ศุภากรณ์ จันทาบุตร ผู้บังคับการปฏิบัติการพิเศษ (คอมมานโด) สั่งการ พ.ต.อ.เรืองรัตน์ หงษ์ทิพรัตน์ ผู้กำกับการสายตรวจตรวจและปฏิบัติการพิเศษกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ พ.ต.อ.เจษฎา ชุมพล ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ พ.ต.ท.ศราวุธ อยู่สบาย สารวัตรกองกำกับการสายตรวจตรวจและปฏิบัติการพิเศษกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ พ.ต.ท.ฐกร ทองอิงครัต สารวัตรกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแดนใต้ เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจสถานีตำรวจภูธรเจาะไอร้อง นำกำลังจับกุม ส.ต.อ.คมกริช มณีวงศ์ อายุ 39 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลา ที่ 312/2558 ลงวันที่ 15 มิ.ย. 58 ข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครอง, พกพาอาวุธปืนฯ , ยิงปืน ซึ่งใช้ดินระเบิด โดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมชน และ ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว กักขังฯผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย”  และ หมายจับปฏิทินมือปืน ตร. ปี 2567 ลำดับที่188  ได้ที่บ้านเลข 239 ม.10 ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส

เนื่องจากเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.58 ส.ต.อ.คมกริช ผู้ต้องหาขณะนั้นยังรับราชกาลตำรวจอยู่ได้ร่วมกับพวกรวม 5 ราย ก่อเหตุอุ้มฆ่า นายภาณุ คำชุม อายุ 21 ปี และนายนเรนฤทธิ์ หนูชู อายุ 17 ปี ก่อนนำศพไปทิ้งในทะเลสาบสงขลา โดย นายภาณุ ถูกยิงด้วยอาวุธปืน 4 นัด ส่วน นายนเรนฤทธิ์ ถูกตีด้วยของแข็งที่ศีรษะจนกะโหลกยุบเสียชีวิต สาเหตุมาจากปัญหาเรื่องยาเสพติด ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลออกหมายจับคนร้ายทั้งหมด 5 ราย ก่อนเข้าจับกุม นายธรพล สังดำ ,นายนิวัติ หิรัญพันธุ์ ,นายจักรกฤษ จันทร์คง และ นายศราวุธ หรือนฤชัย หนนท์  ได้ก่อนหน้านี้ คงเหลือเพียง ส.ต.อ.คมกริช ผู้ต้องหารายนี้ ที่อยู่ระหว่างการหลบหนี

กระทั่งเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าได้หนีมากบดานในพื้นที่ จ.นราธิวาส จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบพบผู้ต้องหายืนอยู่หน้าบ้าน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวจับกุม แต่ ส.ต.อ.คมกริช พยายามจะวิ่งเข้าไปในบ้านเพื่อจะนำอาวุธปืนซึ่งอยู่ในบ้าน มายิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ แต่เจ้าหน้าที่ได้เข้าชาร์จไว้ได้ก่อน ตรวจค้นภายในบ้านพัก พบอาวุธปืนสั้น จำนวน 5 กระบอก และ กระสุนปืนจำนวนหนึ่ง สอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธว่า ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วย แต่ไม่ใช่คนฆ่าวัยรุ่นทั้ง 2 คน  ก่อนนำตัวส่งสถานีตำรวจภูธรเจาะไอร้องดำเนินคดีต่อไป

RELATED ARTICLES