ถูกคนร้ายส่งข้อความท้าทาย
““เดี๋ยวไปมอบเอง ไม่ต้องหา จ้งแจ๊ะไรก็หากูไม่เจอหรอก” ทรชนเดนสังคมลวงข่มขืนเหยื่อสาวเชื่อมั่นในสันดานตัวเอง แถมโพสต์รูปปืนไว้บนโปรไฟล์ส่วนตัว
ทำเอา พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล หัวร้อนระดมทีมนักสืบที่มีอยู่ในกองทัพพลิกแผ่นดินล่า
ปฐมบทของเรื่องเกิดจากสาวผู้เสียหาย 2 รายเข้าร้อง เพจสายไหมต้องรอด แฉพฤติกรรมวายร้ายฉายา “บังมีนพระราม 3” ทำตัวเป็นโมเดลลิ่งสาวประเภทสองติดตามสาวกลางคืนเพื่อรับงานเอ็นเตอร์เทนลูกค้าระดับวีไอพีกระเป๋าหนัก
หว่านล้อมจนพวกเธอติดเบ็ดไปตามนัดย่านพระราม 3 ออกอุบายสวมรอยเป็นลูกค้าแล้วใช้เทคนิคหลอกล่อไม่จ่ายเงินก่อนจนกว่าจะร่วมหลับนอน บังคับบำเรอสวาทอย่างรุนแรงหลายครั้ง ชักปืนข่มขู่ให้ฝ่ายหญิงตกเป็นทาสอารมณ์ราคะ ท้ายสุดยัง “แอบฉกเงินสด” ในกระเป๋าหนีหายไป
บางรายถูกลวงให้ไปซื้อของ บางรายถูกลวงไปปล่อยทิ้งข้างทาง
“เสียทั้งตัวและเสียทั้งเงิน”
เหยื่อบางคนเกือบ “คิดสั้น” เพราะเงินสดที่ถูกมันขโมยไปเป็นเงินเก็บทั้งชีวิต
ต่อมา เพจสายไหมต้องรอด ประสานข้อมูล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล มอบหมาย พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รองผู้กำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สารวัตรกองกำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ต.วศิน อินทร์แก้ว สารวัตรฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล เป็นหัวหอกแกะรอยล่า
ทราบเบาะแส ปัจจุบันคนร้ายไปอยู่ในกลุ่มแก๊งใหญ่ย่านพระราม 3 มั่วสุมอยู่ร้านขายขนมภายในซอยเจริญราษฎร์ 7 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร หลังร้านเป็นแหล่งผลิตน้ำกระท่อมขาย
หลังชุดสืบสวนซุ่มดูอยู่ 10 ชั่วโมง นำกำลังบุกเข้าไปตรวจสอบภายในร้าน พบอุปกรณ์การผลิตและนำกระท่อมสำเร็จรูปจำนวนมาก แต่ไม่พบตัวคนร้ายเพราะไหวตัวหนีไปหวุดหวิด
“เดี๋ยวไปมอบเอง ไม่ต้องหา จ้งแจ๊ะไรก็หากูไม่เจอหรอก” พร้อมส่งภาพอาวุธปืนลูกโม่ ท้าทายเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน
ด้วยสถานะการที่ชุดสืบสวนได้เปรียบ “สารวัตรแจ๊ะ” พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ เล่าว่า ได้พูดคุยถามถึงเบาะแสของคนร้าย เพื่อนในกลุ่มทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า คนร้ายน่าจะหนีไปนนทบุรี แล้วตัวลูกพี่คนร้ายได้โทรไลน์ไปหาคนร้ายยื่นสายมาให้คุยกับชุดสืบสวน ทำทีพูดจาดี อ้างว่าอยู่ นนทบุรี ไม่มีรถ แต่อยากจะมอบตัว เมื่อวางสายแล้ว คนร้ายก็ปิดทันที บล็อกไลน์ลูกพี่ และพรรคพวกในร้าน
หลังจากนั้นคนร้ายได้แชตสนทนาไลน์กับเพื่อนอีกคนหนึ่ง ท้าทาย มีการส่งภาพปืนลูกโม่ มีการบอกว่าจะไปมอบเอง ไม่ต้องตาม ตามก็ไม่เจอ
กลายเป็นที่มาของประโยค “จ้งแจ๊ะไรก็หากูไม่เจอหรอก”
นายตำรวจนักสืบหนุ่มคนดังยืนยันไม่ได้รู้สึกอะไรเพิ่มขึ้น เพราะการตามคนร้ายรายนี้ เป็นการติดตามคนที่หนี “หัวซุกหัวซุน” ต้องเปิดโหมดไล่ล่า 100 เปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว เพียงแต่การไล่ล่าจะต้องรอบคอบมากขึ้นเพราะอาจเป็น “กับดัก”
ชุดสืบสวนหน้างานวิเคราะห์พฤติกรรมคนร้าย คือ เพื่อนๆจะบอกเจ้าหน้าที่ว่าอยู่นนทบุรี และเจ้าตัวยังบอกชุดสืบสวนตอนคุยสายกันอีกว่าอยู่นนทบุรียั่วยุท้าทายอีก เขามองว่า มันแปลกๆ มันเหมือนพยายามจะลวงชุดสืบสวนให้เขวไปอีกทาง
ทีมงานสารวัตรแจ๊ะกลับมาทบทวนข้อมูลจากผู้เสียหายอีกครั้งก็นึกขึ้นได้ว่า คนร้ายเคยพูดกับผู้เสียหายรายหนึ่งไว้ว่า มีพรรคพวกอยู่จังหวัดเพชรบูรณ์ สารวัตรคนดังตัดสินใจลอง “วัดดวง” เดินทางไปดื้อๆ
มี ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวน 4 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพ รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ร.ต.อ.หญิง ณิชญากาญจน์ เปสลาพันธ์ รองสารวัตรฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ร.ต.ท.เลิศวริศ เลิศวรปรีชา รองสารวัตรฝ่ายทะเบียนประวัติอาชญากร 7 กองทะเบียนประวัติอาชญากร ร.ต.ท.ณัฐวุฒิ อันชูฤทธิ์ รองสารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจนครบาลดินแดง ร.ต.ท.อนันตชัย สัจจพงษ์ รองสารวัตรฝ่ายอำนวยการ 2 กองบังคับการอำนวยการ สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นขุมกำลังเสริมพร้อมเสื้อเกราะและอาวุธครบมือ
เพื่อความไม่ประมาท เนื่องจากคนร้ายโชว์ปืนในโซเชียลแถมมีพฤติกรรมอารมณ์รุนแรงตามคำให้การของผู้เสียหาย
เกมการ “งมเข็มในมหาสมุทร” กระตุกชุดสืบสวนวิเคราะห์พฤติกรรมคนร้ายที่ชอบมั่วสุมน้ำกระท่อมเป็นประจำ หลบหนีไปไหนยังคงต้องดื่มน้ำกระท่อม พวกเขาตั้งต้นตรงนี้เป็นหลักในการค้นหาจนไปได้เบาะแสว่า พบชายแปลกหน้าคล้ายคนร้ายมากับวัยรุ่นพักอยู่ห้องเช่าใกล้ตัวเมือง
เมื่อรายงาน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้นำหน่วยให้ความเห็นจากประสบการณ์ว่า สมรภูมิของลูกทีมเสียเปรียบ เพราะเป็นเวลากลางคืน ตามต่างจังหวัดจะเงียบมาก สั่งให้ทีมงานไปจอดรถนอนในปั๊มน้ำมันใกล้เป้าหมายเพื่อรอปิดล้อมตอนพระอาทิตย์ขึ้น
รุ่งเช้า พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ นำทีมบุกทันทีชนิดที่เป้าหมายไม่ทันรู้ตัวภายในห้องเช่า ตำบลสะเดียง กลางเมืองเพชรบูรณ์ ขณะกำลังนอนกกหญิงสาวอยู่กับเพื่อนสายน้ำกระท่อมอีกคู่
“นี่ตำรวจ” สารวัตรหนุ่มคำราม
กิตติกร โต๊ะยีหวัง อายุ 33 ปี หรือ “บังมีนพระราม 3” อยู่บ้านเลขที่ 77/55 หมู่ 10 ตำบลไทรน้อย อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี ลุกขึ้นงัวเงียเมาขี้ตา
มันถูกลากตัวออกมานอกห้องหน้าซืดเผือด
“คิดว่า ผมหาไม่เจอหรือ อย่าล้อเล่นกับระบบ” พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์เสียงดัง เขาคิดถึงคอมเมนต์จากในเพจสืบนครบาล IDMB ของแฟนคลับคนหนึ่ง “อย่าล้อเล่นกับระบบแจ๊ะ”
ปิดภารกิจปัดกวาด “ขยะสังคม” ไปได้อีกราย หลังลอยนวลก่อกรรมทำเข็ญกับเหยื่อสาวมาหลายรายตลอดระยะเวลานานกว่า 3 ปี