พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย ,พ.ต.อ.นิวัฒน์ พึ่งอุทัยศรี รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน2กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.ท ณัฐวุฒิ สีเสมอ , พ.ต.ท.นิติกรณ์ ระวัง รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน2กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.ต.สมพร คำเกตุ สารวัตรกองกำกับการสืบสวนสอบสวน2กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมชุดปฏิบัติการที่ 4 เข้าจับกุมตัว นายธนากร สอนเกตุ อายุ 33 ปี ชาวกรุงเทพฯ และ นายธีรพัฒน์ โนขัตติมาอายุ 32 ปี ชาวจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยของกลาง อาวุธปืน ( ประดิษฐ์ ดัดแปลงลำกล้อง ) ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก , ซองกระสุน จำนวน 1 ซอง , กล่องใส่อาวุธปืนของกลาง จำนวน 1 กล่อง
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนสอบสวน2กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ลาดตระเวนออนไลน์ พบว่า นายธนากร ใช้บัญชีเฟซบุ๊ก ในการลักลอบจำหน่ายอาวุธปืน (ประดิษฐ์ ดัดแปลงลำกล้อง ) ขนาด 9 มม.ในราคา 15,000 บาทเครื่องกระสุนปืน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้วางแผนให้สายลับทำการล่อซื้ออาวุธปืนดังกล่าว โดยนัดหมายกันที่บริเวณริมถนนปทุมธานี-บางเลน หน้าอำเภอลาดหลุมแก้ว ตำบลระแหง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี เมื่อไปถึงที่นัดหมาย นายธนากร ได้แจ้งว่า อาวุธปืนได้ได้ฝากไว้กับเพื่อน จึงได้นำทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและสายลับไปยังทางเข้าหมู่บ้านภัทรรมย์ 2 และ3 พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อนิสสัน สีน้ำเงินเข้ม ได้จอดรถรออยู่ ซึ่งมีนายธีรพัฒน์ เพื่อนของนายธนากร นั่งอยู่ใน ในรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าแสดงตัว เพื่อทำการตรวจสอบพบ อาวุธปืน วางอยู่ที่นั่งข้างคนขับ จึงได้ทำการตรวจยึดจับกุมตัว นายธนากร และนายธีรพัฒน์ ได้ดังกล่าว
สอบสวน นายธนากร ให้การว่า ได้เสนอขายอาวุธปืนดังกล่าวจริง โดยเสนอขายในราคา 15,000 บาท และนายธีรพัฒน์ ให้การว่าได้รับฝากอาวุธปืนจากนายธนากรฯ และนายธนากรฯ แจ้งว่าจะมาเอาในเวลาต่อมา แต่ถูกเจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าจับกุมดังกล่าวเสียก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวพร้อมของกลาง เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายอาวุธปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในความครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวยสถานีตำรวจภูธรลาดหลุมแก้วดำเนินคดี
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ฝากเตือนผู้ ซื้อ-ขายปืนออนไลน์ ผิดทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ ซื้ออาวุธปืนออนไลน์มีความผิดฐาน “ซื้อ มี ใช้ สั่ง หรือนำเข้า อาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต” มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท ส่วนผู้ขายขายอาวุธปืนออนไลน์มีความผิดฐาน “ทำ ประกอบ มี หรือจำหน่ายอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต” มีโทษจำคุกตั้งแต่ 2-20 ปี และปรับตั้งแต่ 4,000-40,000 บาท