จากนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหายาเสพติดยุค นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ต.พิรัชย์ อุดมพิสุทธิคุณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ขับเคลื่อนเนื้องานบูรณาการหน่วยเกี่ยวข้องจับกุมผู้ต้องหายึดของกลางยาไอซ์กว่า 1.4 ตัน
ศาลออกหมายค้นอายัดทรัพย์เบื้องต้นมูลค่า 7 ล้านบาท
ผศ.นพดล กรรณิกา ผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติในฐานะที่ปรึกษากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคายมองว่าเป็นความสำเร็จของ “โมเดลต้นแบบ”
เมื่อชาวจังหวัดหนองคายกำลังลุกขึ้นมาต่อสู้เคียงข้างตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และข้าราชการน้ำดี ช่วยกันทำให้เจ้าหน้าที่รัฐผู้มีอำนาจแต่หลงผิดอยู่ลำบาก หาผลประโยชน์ส่วนตัวได้ยากขึ้น
เจ้าตัวเชื่อว่า เมื่อภาคประชาชนเข็มแข็ง มีข้าราชการตำรวจน้ำดีเป็นผู้นำหน่วยจะเกิดพลังงานด้านการข่าวนำการปฏิบัติการแบบบูรณาการแม่นยำตรงจุดมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
เป้าหมายคือ รักษาความมั่นคงของชาติและความปลอดภัย ทำให้ชาวบ้านอยู่เย็นเป็นสุขได้อย่างยั่งยืน
นับเป็นผลงานที่อยู่ในห้วงเวลาของโรดแมป ปฏิบัติการกู้ศรัทธาของประชาชนต่อองค์กรตำรวจ ที่เคยนำเสนอคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติด้านยุทธศาสตร์และการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนที่มี พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย เป็นประธาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติทำหน้าที่รองประธาน
ผ่านความเห็นชอบให้ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ต.พิรัชย์ อุดมพิสุทธิคุณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรหนองคาย ร่วมกับคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจจังหวัดหนองคาย และคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจโรงพักในพื้นที่ไปปฏิบัติการตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา
ระดมเก็บข้อมูลความต้องการของประชาชนชาวจังหวัดหนองคายเอาไปเป็น “โจทย์ตั้ง” เพื่อแก้ไขให้ตรงจุดความต้องการของประชาชนระดับพื้นที่ควบคู่ไปกับนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล
ทำให้เกิดผลงานต่อเนื่องระหว่างวันที่ 8-9 พฤษภาคม 2567 จับกุมผู้ต้องหาและยืดยาเสพติดเป็นไอซ์ 29 กล่องน้ำหนักรวมกว่า 1.4 ตัน ยึดทรัพย์เบื้องต้นมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท
ผุก “โมเดลต้นแบบ” ของชาวจังหวัดหนองคายเรียกร้องกระตุ้นให้ประชาชนทุกจังหวัดของประเทศลุกขึ้นสู้เคียงข้างตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง
หนุน “ข้าราชการน้ำดี” ล้างขบวนการทำลายความมั่นคงของชาติ
อยู่กันลำบากและหากินได้ยากขึ้น
