พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สั่งการ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี5 พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช พ.ต.อ.บัญชา ศรีสุข รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี5 พ.ต.อ.ฐาปกรณ์ หนุมาศ ผู้กำกับการ3กองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี5 สนธิกำลังพล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง6 พ.ต.อ.เด่นชาย เจริญยุทธ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง6 และนายปราโมทย์ รัตรประทีป อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการจังหวัดทุ่งสง
นำกำลังปิดล้อมตรวจค้น 7 จุด ในพื้นที่อำเภอฉวาง และอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ตามยุทธการ Takedown Scammer Ep:2 จับกุมเครือข่ายขบวนการคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ โดยจุดที่น่าสนใจคือบ้านเลขที่ 824 หมู่บ้านจันดีแกรนด์วิลล่า ตำบลจันดี อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยบ้านดังกล่าวมีลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ภายในมีการแบ่งเป็นโซนที่พักและห้องทำงาน อีกโซนเป็นที่เก็บสินค้า ซึ่งเป็นบ้านของนางเรวดี ทีปไพบูลย์ อายุ 51 ปี หรือเจ๊เล็ก รองนายกเทศมนตรีจันดี และนายหลิน ดันหยาง หรือโกหยาง อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นสามีนางเรวดี และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสงที่158 /2567 ลงวันที่ 8 พ.ค.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนร่วมกันเป็นอั้งยี่ ,ร่วมกันเป็นซ่องโจรและร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ จากการตรวจสอบไม่พบตัว น.ส.เรวดี และสามี พบเพียงผู้ดูแลเท่านั้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดเอกสารหลักฐานบริษัทในเครือข่าย โฉนดที่ดิน สมุดบัญชีธนาคาร รวมไปถึงสเตทเม้นท์บัญชีธนาคารต่างๆ
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แบ่งกำลังอีกส่วนเข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 844 หมู่บ้านจันดีแกรนด์วิลล่า ตำบลจันดี อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.อาทิตยา ทีปไพบูลย์ อายุ 23 ปี ลูกสาวนางเรวดี เบื้องต้นไม่พบตัว น.ส.อาทิตยา พบเพียงนายหยาง ชาวจีน ซึ่งเป็นพ่อสามีของ น.ส.อาทิตยา อาศัยอยู่ที่บ้านดังกล่าว เจ้าที่ได้ทำการตรวจยึดเอกสารหลักฐาน,สมุดบัญชีธนาคาร ไว้ทำการตรวจสอบ และอีกจุดได้เข้าตรวจค้นโรงแรมจินเฮง ก่อนจับกุมนายอาย่ะ มาเยอะกู่ อายุ 37 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสงที่161 /2567 ลงวันที่ 8 พ.ค. ในความผิดเดียวกัน พร้อมตรวจยึดโทรศัพท์ตั้งโต๊ะ ,อุปกรณ์เราเตอร์ เป็นต้นนอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องหาในเครือข่าย โดยจับกุม น.ส.ธัญพร ทองใหม่ อายุ 44 ปี และน.ส.ลักษิกา วงศ์ภัทรพงศ์ อายุ 51 ปี จับได้ที่ อ.ฉวาง ส่วน น.ส.ณัฏฐกันย์ ข่ายแก้ว อายุ 23 ปี จับได้ที่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในความผิดเดียวกัน ก่อนนำตัวทั้งหมดไปสอบสวนสถานีตำรวจภูธรทุ่งสง ส่วนของน.ส.เรวดี สามี ลูกสาว และ น.ส.น.ส.ดุษดี แสงแก้ว อยู่ระหว่างหลบหนี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี
พล.ต.ต.วิวัฒน์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากปลายเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา (29 มี.ค. 67 ) ตำรวจไซเบอร์ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ , ตำรวจสืบสวนภาค8 , ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ กสทช. กว่า 100 นาย ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนรายใหญ่ ที่ลักลอบตั้งฐานแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกคนไทย,ชาวจีน,ชาวรัสเชีบและชาวญี่ปุ่น โดยครั้งนั้นจับกุมขบวนการชาวจีน และผู้ร่วมขบวนการทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ รวม 90 คน พร้อมยึดของกลาง คอมพิวเตอร์ 192 เครื่อง, มือถือและซิมผี 854 เครื่อง, Router กระจายสัญญาณ 22 เครื่อง, และบัญชีม้า 342 เล่ม ซึ่งจากการขยายผลพบความเชื่อมโยงว่าขบวนการดังกล่าวมี น.ส.เรวดี ทีปไพบูลย์ อายุ 51 ปี หรือเจ๊เล็ก รองนายกเทศมนตรีจันดี ซึ่งเป็นเจ้าของสถานที่ที่กลุ่มคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนใช้เป็นฐานปฎิบัติการ อีกทั้งสามีคือนายหลิน ดันหยาง หรือโกหยาง มีการโอนเงินซื้อคอมพิวเตอร์,โทรศัพท์ให้กับกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน และทำหน้าที่จ่ายเงินให้ลูกจ้างชาวไทย และ น.ส.อาทิตยา ลูกสาวนางเรวดี ปรากฎชื่อเป็นนอมินีในบริษัทที่กลุ่มคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนใช้บังหน้า จึงรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด 7 ราย ส่วน น.ส.เรวดี ทีปไพบูลย์ อายุ 51 ปี หรือเจ๊เล็ก รองนายกเทศมนตรีจันดี ศาลให้ออกหมายเรียกก่อน
“จากการสอบปากคำ นายอาย่ะ มาเยอะกู่ อายุ 37 ปี น.ส.ธัญพร ทองใหม่ อายุ 44 ปี น.ส.ลักษิกา วงศ์ภัทรพงศ์ อายุ 51 ปี ,น.ส.ณัฏฐกันย์ ข่ายแก้ว อายุ 23 ปี ให้การภาคเสธ แต่ให้ความร่วมมือในการตรวจค้นและข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการสืบสวน ขบวนการนี้หลอกลวงเหยื่อหลากหลายวิธีในหลายประเทศ โดยออกอุบายหลอกลงทุน ชักชวนเล่นพนันออนไลน์ ซื้อสินค้าในแพลตฟอร์มติ๊กต็อก ชอปปี้ ในลักษณะสแกรมเมอร์ ผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ เทเลแกรมและคิวคิว ซึ่งการตรวจค้นครั้งนี้ชุดสืบสวนได้หลักฐานสำคัญคือ เอกสารบัญชีของบริษัทแห่งหนึ่งที่เชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ในบ้านพักของนางเรวดี นอกจากนี้พนักงานสอบสวนได้ทำเรื่องเสนอต่อศาลออกหมายจับ นางเรวดี ทีปไพบูลย์ หรือเจ๊เล็ก รองนายกเทศมนตรีจันดี เนื่องจากมีพฤติกรรมหลบหนีไม่ยอมมาตามหมายเรียกแล้ว และฝากประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ต้องหาที่หลบหนี ให้มามอบตัวเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตลอดจนหน่วยงานความมั่นคงเฝ้าติดตาม และคุมเข้มสกัดจับตามแนวชายแดนและช่องทางธรรมชาติเพื่อติดตามตัวผู้ต้องหาที่เหลือมาดำเนินคดีต่อไป” พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าว