พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย ,พ.ต.อ.นิวัฒน์ พึ่งอุทัยศรี รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน2กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.ท ณัฐวุฒิ สีเสมอ , พ.ต.ท.นิติกรณ์ ระวัง รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน2กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล สั่งการให้ชุด พ.ต.ต.สมพร คำเกตุ สารวัตรกองกำกับการสืบสวนสอบสวน2กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมชุดปฏิบัติการที่ 4 จับกุมผู้ต้องหา 2 รายคือ 1.นายไตรภพ สุขสรรเสริญ อายุ 19 ปี ชาว จังหวัดชัยภูมิ 2.นายอนุสรณ์ บุญหวัง อายุ 22 ปีชาวกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยของกลาง 1.อาวุธปืน ( ประดิษฐ์ ดัดแปลงลำกล้อง ) ขนาด 380 มม. จำนวน 1 กระบอก 2.เครื่องกระสุนปืน ขนาด 380 มม. จำนวน 3 นัด 3.ซองกระสุน(แม๊กกาซีน) จำนวน 1 ซอง 4.ซองพกอาวุธปืนสีดำ จำนวน 1 ซอง จับกุมที่บริเวณภายในปั๊มน้ำมัน ถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร
ก่อนทำการจับกุมเจ้าพนักงานตำรวจ กองกำกับการสืบสวนสอบสวน2กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล สืบสวนหาข่าวจนพบ นายไตรภพ ใช้บัญชีเฟสบุ๊คเสนอขาย อาวุธปืน ( ประดิษฐ์ ดัดแปลงลำกล้อง ) ขนาด .380 มม. ในราคา 15,000 บาท เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้วางแผนการล่อซื้อ โดยนัดหมายรับอาวุธปืนและจ่ายเงินกัน บริเวณในปั๊มน้ำมันถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร ต่อมา ถึงเวลานัดหมาย นายไตรภพฯกับนายอนุสรณ์ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า รุ่น PCX สีแดง-ดำ มาถึงบริเวณปั๊ม และนำอาวุธปืนส่งให้กับสายลับ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวทำการจับกุมได้ดังกล่าว
จากการสอบสวน นายไตรภพ ให้การว่า ได้เสนอขายอาวุธปืนดังกล่าวจริง โดยเสนอขายในราคา 15,000 บาท และนายอนุสรณ์ ฯ ให้การว่าได้ถูกนายไตรภพฯ ชักชวนให้ช่วยขี่มอเตอร์ไซค์มาส่งที่ปั๊ม ศรีนครินทร์ 42 ซึ่งรู้ว่านายไตรภพฯ กำลังจะเอาอาวุธปืนไปขาย จนถูกเจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าจับกุมดังกล่าว เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหา “ ร่วมกันจำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลพระโขนง ดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ฝากเตือนผู้ ซื้อ-ขายปืนออนไลน์ ผิดทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ ซื้ออาวุธปืนออนไลน์มีความผิดฐาน “ซื้อ มี ใช้ สั่ง หรือนำเข้า อาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต” มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท ส่วนผู้ขายขายอาวุธปืนออนไลน์มีความผิดฐาน “ทำ ประกอบ มี หรือจำหน่ายอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต” มีโทษจำคุกตั้งแต่ 2-20 ปี และปรับตั้งแต่ 4,000-40,000 บาท