รวบ “สองผัวเมีย” สร้างตัว ลอบจำหน่ายปืนไทยประดิษฐ์ รับฯ ทำเป็นอาชีพเสริมรายได้ดี

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล สั่งการ พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฏศรี , พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รองผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ นำกำลังจับกุม นายวีรวุธ ประสพเนตร์ อายุ 18 ปี 4 เดือน ชาวจังหวัดกำแพงเพชร และ น.ส.พิทยาภรณ์ อรรถพันธุ์ อายุ 18 ชาวจังหวัดอุทัยธานี พร้อมของกลาง อาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ เบอร์ 12 จำนวน 2 กระบอก , ใบเสร็จรับเงินอย่างย่อ จำนวน 1 บิล, รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น แกรนด์ฟิราโน่ สีน้ำเงิน จับกุมตัว บริเวณหน้าร้าน FLASH EXPRESS สาขามโนรมย์ ตำบลหางน้ำสาคร อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท

เนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ทำการเฝ้าสะกดรอยพฤติกรรมของนายวีรวุธ หรือบอส และ น.ส.พิทยาภรณ์ หรือมิ้ว สามีภรรยาคู่นี้มานานกว่า 1 เดือนจนทราบว่า ทั้งคู่จะมาส่งปืนทางขนส่งเอกชนอยู่ประจำ พบทั้งคู่บริเวณหน้าร้าน FLASH EXPRESS สาขามโนรมย์ ตำบลหางน้ำสาคร อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท ขณะขับรถจักรยานยนต์ นำกล่องพัสดุซึ่งภายในมีอาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ส่งให้แก่ลูกค้าที่สั่งซื้อ จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นพบของกลางเป็นอาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ เบอร์ 12 จำนวน 2 กระบอก ในสภาพบรรจุอยู่ในกล่องพัสดุพร้อมจัดส่งให้แก่ผู้รับ

สอบสวน ทั้งสองให้การรับสารภาพว่า เมื่อประมาณปลายเดือนเมษายน 2567 ตนได้เข้าไปเห็นในเฟซบุ๊กว่ามีการโพสต์ประกาศขายปืนกันอย่างแพร่หลาย ถ้าตนและแฟนหันมาทำเป็นงานเสริมน่าจะได้กำไรดี จึงลองสั่งซื้อมาและลองเอาไปโพสต์ขายทางโซเชียล ปรากฏได้กำไรดี เฉลี่ยได้กำไรกระบอกละ 2,000 บาท (ซื้อมากระบอกละ 4,000 บาท ขายกระบอกละ 6,000 บาท) จึงหันมาทำเป็นอาชีพเสริมจากงานรับจ้างทั่วไปที่ทำเป็นหลักอยู่ปกติ ที่ผ่านมาเคยสั่งปืนเพื่อนำมาส่งขายแล้วประมาณ 10 กว่าครั้ง เงินที่ได้นำมาใช้จ่ายในครอบครัวกันสองคนผัวเมีย ก่อนจะมาถูกจับกุมที่สุด เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาว่า “ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันจำหน่ายอาวุธปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ” ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทังหมดส่ง พงส.สภ.หางน้ำสาคร ภ.จว.ชัยนาท เพื่อดำเนินคดี

พล.ต.ต.ธีรเดช เปิดเผยว่า  ปัจจุบันนี้การก่ออาชญากรรมมีลักษณะที่มีการใช้อาวุธปืนประทุษร้ายต่อชีวิต ร่างกาย ปล้น ชิงทรัพย์ ในลักษณะอุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายเพิ่มมากขึ้น อาทิ เหตุกราดยิง นักศึกษาต่างสถาบัน เหตุทะเลาะวิวาท สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างมาก สั่งการให้ทุกชุดปฏิบัติเร่งปราบปรามและหาทางป้องกันอย่างจริงจัง ากเตือนผู้ ซื้อ-ขายปืนออนไลน์ ผิดทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ ซื้ออาวุธปืนออนไลน์มีความผิดฐาน “ซื้อ มี ใช้ สั่ง หรือนำเข้า อาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต” มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท  ส่วนผู้ขายขายอาวุธปืนออนไลน์มีความผิดฐาน “ทำ ประกอบ มี หรือจำหน่ายอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต” มีโทษจำคุกตั้งแต่ 2-20 ปี และปรับตั้งแต่ 4,000-40,000 บาท

RELATED ARTICLES