พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม, พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง สั่งการ พ.ต.อ.ชนกฤดิ พงษ์ศิริ ผุ้กำกับการ7 กองบังคับการตำรวจทางหลวง พ.ต.ท.มนัสวี กะดะแซ สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง5 กองกำกับการ7 กองบังคับการตำรวจทางหลวง นำกำลังจับกุม นายมูฮัมหมัด บาโระสะนอ อายุ 20 ปี และ นายอัสฮา ประดู่ อายุ 38 ปี พร้อมแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา อีก 11 ราย ได้ริมถนน 4066 ตำบลตะโล๊ะหะลอ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่าจะมีขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวมาส่งที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส จึงวางกำลังสกัดตามเส้นทางที่คาดว่าจะผ่าน กระทั่งพบรถกระบะต้องสงสัยจำนวน 5 คันขับมาเป็นขบวนคาราวาน มีรถนำทางคอยดูต้นทาง จึงเข้าสกัดจับได้ 2 คัน อีก 3 คัน เร่งเครื่องหลบนีไปได้ จากการตรวจสอบรถกระบะคันแรกมี นายมูฮัมหมัด เป็นคนขับคอยดูต้นทาง ส่วนกระบะคันที่สองพบแรงงานต่างด้าว 11 คน จึงควบคุมตัวทั้งหมดมาสอบสวน
โดยนายมูฮัมหมัด และ นายอัสฮา ให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจาก นายมะสุกรี ให้มาขับกระบะไปรับแรงงานต่างด้าวจำนวน 30 คน จากป่าละเมาะใกล้นิคมอุตสาหกรรมฉลุง อำเภอบางกล่ำ จังหวัดสงขลา ไปส่งที่ อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส โดยได้ค่าจ้างเที่ยวละ 5,000 บาท ซึ่งในการขนต่างด้าวดังกล่าวได้มีการกระจายให้นั่งในรถกระบะ 3 คัน คันละประมาณ 10 -11 คน โดยมีรถนำขบวนอีก 2 คัน ทำหน้าที่สำรวจเส้นทางและคอยเตือนเมื่อมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่าน ทั้งนี้ นายมะสุกรี ผู้ว่าจ้างได้ขับรถนำขบวนและสามารถหลบหนีการจับกุมไปได้
ส่วนแรงงานต่างด้าวทั้งหมดรับสารภาพว่าต้องการหลบหนีสงครามกลางเมืองภายในประเทศเมียนมา เพื่อเดินทางไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย โดยจ่ายเงินให้นายหน้าสัญชาติเดียวกัน ในราคา 35,000 บาท ซึ่งนายหน้าจะพาโดยสารด้วยรถยนต์สลับกับเดินเท้าผ่านเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติข้ามมายังประเทศไทย จากนั้นจึงโดยสารซุกซ่อนมาในรถยนต์คันละประมาณ 11-12 คน โดยมีการแวะพักตามจุดต่างๆ เพื่อตรวจสอบการสกัดกั้นของเจ้าหน้าที่เป็นระยะ โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 วันเศษ กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ในที่สุด
เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันให้ที่พักพิง ซ่อนเร้น ให้การช่วยเหลือแก่คนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาโดยผิดกฎหมาย เพื่อให้พ้นจากการจับกุมของพนักงานเจ้าหน้าที่” แก่ นายมูฮัมหมัด และ นายอัสฮา ส่วนแรงงานต่างด้าวทั้งหมดแจ้งข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.จะกว๊ะ ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งเร่งติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่หลบหนีต่อไป
