พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง1 พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง3 พ.ต.อ.กีรติศักดิ์ ก้องเกียรติศิริ รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง1 พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพยอม รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง ร่วมแถลงข่าว การจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ ดังนี้
พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวว่า คดีแรกจับกุมนายหมิง อายุ 42 ปี สัญชาติจีน ในความผิดฐานเป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต, อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด จับกุมได้ที่ บริเวณล็อบบี้โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ หลังสืบทราบว่ามีพฤติกรรมรับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนและพาไปที่พัก และช่วยประสานงานกับสถานที่ ต่าง ๆ ในลักษณะไพรเวททัวร์ เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาติดต่อธุรกิจที่ต้องการความเป็นส่วนตัว และไม่ต้องการท่องเที่ยวในรูปแบบของบริษัทนำเที่ยว ขณะเดียวกันมีข้อมูลหน่วยงานความมั่นคงของสาธารณรัฐประชาชนจีน แจ้งว่านายหมิง มีประวัติ กระทำความผิดฐาน ฉ้อโกงวิสาหกิจ ซึ่งนายหมิงได้แอบอ้างตนเป็นผู้จัดการฝ่ายขายประจำเขตของบริษัทไวน์แห่งหนึ่ง และได้ไปติดต่อเสนอขายไวน์หายากมูลค่าสูงให้กับผู้ค้าปลีกหลายราย โดยหลอกว่าจะให้ลดราคาสิทธิพิเศษ 10% รวมเป็นเงินเกือบ 2 ล้านหยวน แต่นายหมิงก็ไม่ได้จัดหาไวน์ให้จริง และตัดการติดต่อกับผู้เสียหายทั้งหมด ต่อมาสำนักงานความมั่นคงสาธารณะเมืองฉือเจียจวง มณฑลเหอเป่ย ได้ออกประกาศสืบจับ และเพิกถอนหนังสือเดินทางของนายหมิง จึงนำตัวส่งดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวต่อว่า คดีที่สองจับกุมนายหนี่และนางมา สองสามีภรรยาขาวเมียนมา ในความผิด เป็นคนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ หลังไลฟ์สดขายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ โดยที่ผ่านมามีรายได้กว่า 12 ล้านบาท นอกจากนี้ยังจับกุมนายโซและนายปาย พร้อมของกลางยาบ้า 300 เม็ด พร้อมกระสุนปืนมากกว่า 300 นัด โดยจับกุมได้ที่ห้องพักพื้นที่ ตำบลโคกขาม อำเภอเมืองสมุทรสาคร ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
