สืบนครบาลรวบ “หนึ่งบ่อพลอย” ลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนเถื่อนออนไลน์

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สั่งการ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.ต.สมพร คำเกตุ สารวัตรกองกำกับการสืบสวนสอบสวน2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่4 เข้าจับกุม นายสราวุฒิ วิเศษสิงห์ หรือหนึ่ง อายุ 39 ปี ชาวอำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยของกลาง อาวุธปืน กึ่งอัตโนมัต ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมแม็กกาซีน, เครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน  6  นัด จับกุม ที่บริเวณภายในลานจอดรถอพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่ง ถนนรามคำแหง แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการสืบสวนสอบสวน2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาลสืบสวนหาข่าวจนทราบว่า นายสราวุฒิ หรือหนึ่ง มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่าย อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ผ่านช่องทางสื่อโซเชียล ต่อมาพบว่า นายสราวุฒิผู้ใช้เฟซบุ๊กเสนอขาย อาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. ในราคา 30,000 บาท เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงให้สายลับ ติดต่อล้อซื้ออาวุธปืนดังกล่าว โดยนัดหมายรับของกันที่บริเวณซอยรามคำแหง157 แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพฯเมื่อเดินทางไปถึง นายสราวุฒิ ได้แจ้งให้เข้ามาในซอยรามคำแหง 157 ซึ่งเป็นอาคารที่พักมีลานจอดรถ จากนั้น นายสราวุฒิได้เดินมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปลอมตัวมาพร้อมกับสายลับที่ลานจอดรถ ตำรวจที่ปลอมตัวมากับสายลับได้ส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเฝ้าสังเกตการณ์อยู่โดยรอบ แสดงตัวเข้าตรวจสอบพบ ของกลางอาวุธปืน กึ่งอัตโนมัต ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมแม็กกาซีน และเครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม.จำนวน 6 นัดในกระเป๋ากางเกงของ นายสราวุฒิ สอบสวน นายสราวุฒิ ให้การว่า ได้เสนอขายอาวุธปืนดังกล่าวในราคา 30,000 บาทจริง กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงตัวเข้าจับกุมดังกล่าว เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาว่า “หน่ายอาวุธปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร” ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่ง พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลบางชัน ดำเนินคดี

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ฝากเตือนผู้ซื้อ-ขายปืนออนไลน์ มีความผิดทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ ผู้ซื้ออาวุธปืนออนไลน์มีความผิดฐาน “ซื้อ มี ใช้ สั่ง หรือนำเข้า อาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต” มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท  ส่วนผู้ขายมีความผิดฐาน “ทำ ประกอบ มี หรือจำหน่ายอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต” มีโทษจำคุกตั้งแต่ 2-20 ปี และปรับตั้งแต่ 4,000-40,000 บาท