พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รองผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.ต.ทศรัสมิ์ กิติธารา สารวัตรกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล นำกำลัง ชุดปฏิบัติการที่4 เข้าจับกุม
นายสุขบุญรอด พัชนี อายุ 29 ปี ข้อหา เป็นธุระจัดหาโฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อหรือขายเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ ” ตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2566 พร้อมของกลาง ซิมโทรศัพท์เคลื่อนที่ เครือข่ายเอไอเอส ที่ลงทะเบียนพร้อมใช้งานแล้ว จำนวน 200 ซิม, โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Oppo รุ่น A77s สีดำ จำนวน 1 เครื่อง จับกุมได้ที่บริเวณถนนสาธารณะปากซอยอยู่สุข28 ตำบลบางเมือง อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ได้สืบทราบว่า นายสุขบุญรอด ผู้ต้องหา มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้ว จึงได้ให้สายลับทำการติดต่อล่อซื้อ “ซิมโทรศัพท์เคลื่อนที่ลงทะเบียนพร้อมใช้งานจำนวน 200 ซิม ในราคา 5,600 บาท” โดยนัดหมายกันที่บริเวณปากซอยอยู่สุข 28 ตำบลบางเมือง อำเภอลเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อไปถึงที่นัดหมาย นายสุขบุญรอด ได้มายืนรออยู่แล้ว พร้อมกับถือถุงพลาสติกหูหิ้วสีขาว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เข้าไปแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอตรวจสอบพบเป็น ซิมโทรศัพท์เคลื่อนที่ เครือข่ายเอไอเอส จำนวน 200 ซิม จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ซิมทั้งหมดเป็นซิมที่ลงทะเบียนแล้วพร้อมใช้งาน กำลังจะนำมาให้กับผู้ติดต่อซื้อ โดยก่อนหน้านี้พี่ชายจะเป็นคนขาย แต่ต่อมาพี่ชายติดคุก เลยได้ของมาฟรีๆไม่ต้องลงทุนน เลยนำมาขายในราคา 30 บาทเนื่องจากไม่มีต้นทุน ผู้ต้องหายังให้การอีกว่า เดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่จะขายเป็นซิมเปล่ายังไม่ลงทะเบียน แล้วไปลงทะเบียนที่ประเทศเพื่อนบ้านแล้วค่อยเอามาขาย นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบซิมดังกล่าวได้มีการลงทะเบียนหมดแล้ว ใช้ชื่อคนไทย เปิดมาประมาณ 3-4 เดือน
พล.ต.ต.ธีรเดช ฝากเตือนผู้ที่คิดจะทำอาชีพขายบัญชีม้าหรือซิมม้านั้น ได้ไม่คุ้มเสียกับโทษทางอาญา ขอให้คิดให้ดี ซึ่งตามกำหมายนั้น ผู้ใดเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก (คนเปิดบัญชีม้า) บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์(คนเปิดซิมม้า)สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
