กองปราบล้างบางอิทธิพลเถื่อน พัทลุง- สงขลา รวบทีมมาเฟียท้องถ่ิ่น สั่งฆ่า “หมีป่าบอน” คนสนิท “เสี่ยแป้งนาโหนด” ปมทวงหนี้

พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม พร้อมด้วย พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ รองผู้บังคับการปราบปราม พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผู้กำกับการ6กองบังคับการปราบปราม พ.ต.อ.ภัทรพล ปัทมวงศ์ ผู้กำกับการสนับสนุน กองบังคับการปราบปราม นำเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ6กองบังคับการปราบปราม บูรณาการกำลังร่วมกับตำรวจภูธรภาค 9 กว่า 120 นาย เปิดปฏิบัติการ TAKEDOWN MAFIA กวาดล้างอิทธิพลเถื่อนซุ้มมือปืนภาคใต้ เข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 15 จุด แบ่งเป็นพื้นที่จังหวัสงขลา 10 จุด จังหวัดพัทลุง 5 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาในคดีจ้างวานฆ่าจำนวน 9 หมายจับ

พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า สำหรับปฏิบัติการดังกล่าว เนื่องจากเมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2567 ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามหลายชนิด ทั้งเอ็ม 16 และปืนอาก้า ถล่มยิงใส่ นายประศาล คงนุ่น ฉายา “หมีป่าบอน” อายุ 54 ปี อาชีพผู้รับเหมา จนเสียชีวิตต่อหน้าภรรยา ริมถนนในหมู่บ้านห้วยปลิง พื้นที่หมู่4 ตำบลหนองธง อำเภอป่าบอน จังหวัพัทลุง ก่อนหลบหนี ด้วยพฤติกรรมก่อเหตุที่อุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมาย หลังเกิดเหตุจึงสั่งการให้ เจ้าหน้าที่ กก.6 บก.ป. จัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแสกลุ่มคนร้าย จนทราบตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ ผู้จ้างวาน คนรับงาน และ กลุ่มมือปืนผู้ก่อเหตุ ทั้งนี้ก็เพื่อกวาดล้างจับกุมผู้มีอิทธิพล มาเฟียท้องที่ มือปืนรับจ้าง ในพื้นที่ให้หมดไป ป้องปรามไม่ให้เติบโตกลายเป็นองค์กรอาชญากรรมในอนาคต

 

สำหรับนายประศาล (ผู้เสียชีวิต) จากการตรวจสอบประวัติทราบว่าเป็นคนสนิทของนักโทษชาย เชาวลิต ทองด้วง หรือ “แป้ง นาโหนด” ผู้ต้องหาหลายคดี ทั้งคดีปล้น คดีพยายามฆ่าคดีอาวุธปืน และยังเป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่ อำเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง ส่วนชนวนเหตุสั่งตาย จากแนวทางสืบสวนพบว่า นายประศาลได้รับงานเป็นคนกลางไปทวงเงิน นายกรรัก ก่อฤกษ์คณิน หรือ เชษฐ์ ปาดัง อายุ 43 ปี  เลขานุการนายกเทศมนตรี และเป็นที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการ กรรมาธิการหนึ่งใน รัฐสภา. มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดสนิทสนมกับ นักการเมืองระดับประเทศ”ทสนมกับ นักการเมืองระดับประเทศ

พฤติกาณ์คือโดยในระหว่างที่ทวงเงินทั้งสองได้มีปากเสียงกันกันรุนแรง สร้างความไม่พอใจให้กับ นายกรรัก เป็นอย่างมาก จึงได้ติดต่อให้ นายไพฑูรย์ ย้อยอัด หรือกำนันฑูรย์ คนสนิท ซึ่งเป็นนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ จังหวัพัทลุง ให้จัดหามือปืน มาสังหารผู้ตาย หลังจากรับงาน นายไพฑูรย์ จึงได้ให้ พ.ต.ท.ปัญญา ข้าราชการตํารวจสถานีตำรวจภูธรปากพะยูน ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของกำนันฑูรย์ จัดหามือปืน โดยผ่าน นายกิตติกร (สงวนนามสกุล) ให้ช่วยจัดหามือปืนให้อีกทอดหนึ่ง ก่อนมีการว่าจ้างกลุ่มมือปืนมารับงานก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งในวันก่อเหตุ เจ้าหน้าที่พบหลักฐานว่ากลุ่มมือปืนดังกล่าว มีการแบ่งหน้าที่กันลงมืออย่างชัดเจน ตั้งแต่คนตรวจสอบผู้ตาย คนชี้เป้า ให้กับมือสังหาร จนสามารถก่อเหตุได้สําเร็จ

โดยจุดสำคัญจุดแรก พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภัทรพล ปัทมวงศ์ ผู้กำกับการสนับสนุน กองบังคับการปราบปราม นำกำลังหน่วยปฏิบัติการพิเศษหนุมาน กองปราบปราม เจ้าหน้าที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ภูธรภาค 9 ตำรวจ กว่า 30 นาย พร้อมอาวุธครบมือเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 2113/22 หมู่ 6 ตำบลควนลัง อำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นบ้านของ นายกรรัก ก่อฤกษ์คณิน หรือ เชษฐ์ ปาดัง อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญารัชดา ที่ 2422/2567 ลงวันที่ 24 พ.ค.2567 ข้อหา”ร่วมกันใช้จ้างวานให้ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” จากการตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้น มีรั้วรอบขอบชิด บนกำแพงบ้านมีการต่อสายไฟปล่อยไฟฟ้าเพื่อป้องกันผู้บุกรุก และมีกล้องวงจรปิดรอบบริเวณบ้าน เจ้าหน้าที่จึงตะโกนเรียกให้ออกมามอบตัว แต่ภายในบ้านกับมีการซุ่มมองลงมาและปิดไฟภายในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงใช้คีมขนาดใหญ่ตัดกุญแจรั้วบ้าน เมื่อเห็นดังนั้น นายกรรัก ก็ได้รีบวิ่งลงมาเปิดประตูให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทันที เข้าตรวจค้นพบอาวุธปืนมีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายจำนวน 4 กระบอก เป็นอาวุปืนสั้น 2 กระบอกและปืนยาวอีก 2 กระบอก ทั้งนี้จากการสอบสวน นายกรรัก ยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่าไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น

จุดสำคัญต่อมา พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ รองผู้บังคับการปราบปราม นำกำลังเจ้าหน้าที่ กก.6 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดปปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบ พร้อมยุทโธปกรณ์ครบมือ เข้าค้นบ้านเลขที่ 260 ม.4 ต.ฝาละมี อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ซึ่งเป็นบ้านพักของ นายไพฑูรย์ ย้อยอัด หรือ กำนันฑูรย์ อายุ 49 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาคนสำคัญในคดี เนื่องจากเป็นคนช่วยจัดหากลุ่มมือปืนมาก่อเหตุ โดยทันทีที่เจ้าหน้าที่ไปถึงพบ เป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว พบนายไพฑูรย์ กำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ภายในบ้านพัก เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมไว้ได้ พร้อมเข้าตรวจค้นพบ อาวุธปืนถูกกฎหมาย 2 กระบอก

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่อีกส่วนเข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 264 ม.4 ต.ฝาละมี อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง บ้านพักของ พ.ต.ท.ปัญญา ย้อยอัด สารวัตร(สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรปากพะยูน ญาติของนายไพฑูรย์ หลังพบว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดหามือปืนเช่นเดียวกัน โดยทันทีที่ไปถึงพบ พ.ต.ท.ปัญญา กำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ภายในบ้าน จึงแสดงหมายจับก่อนเข้าทำการจับกุมตัวได้เช่นเดียวกัน

จุดสำคัญอีกจุดเป็นบ้านเลขที่ 144 ม.7 ตำบลรัตภูมิ อำเภอควนเนียง จังหวัดสงขลา แหล่งที่กบดานของ นายธีรพงษ์ หนูแทน อายุ 34 ปี มือปืนผู้ก่อเหตุ  และนายธีระพงศ์ หรือ เอ็ม สงเคราะห์  อายุ 32 ปี คนขับรถพาไปก่อเหตุ  พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ บุญทอง สารวัตรกองกำกับการ6กองบังคับการปราบปราม นำกำลังเจ้าหน้าที่ กก.6 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบ พร้อมยุทโธปกรณ์ครบมือ กระจายกำลังเข้าปิดล้อมพื้นที่  แต่เนื่องจากบริเวณโดยรอบเป็นพื้นที่เปิด ตั้งติดอยู่ใกล้กับแนวป่า ทำให้ผู้ต้องหาทั้งสองรายเกิดไหวตัวทันวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่า เจ้าหน้าที่จึงเร่งติดตามไปอย่างใกล้ชิด ก่อนสามารถตามจับกุม นายธีระพงศ์ หรือ เอ็ม ได้ 1 ราย ส่วนนายธีรพงษ์ มือปืนนั้นอาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไปได้ อย่างไรก็ตามหลังการจับกุมตัวนายธีระพงศ์ หรือ เอ็ม ได้นั้น เจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปขยายผลตรวจยึดรถยนต์โตโยต้า สีบรอนซ์ทอง คันที่ใช้วันก่อเหตุ ซึ่งจอดอยู่ที่อู่ซ่อมรถแห่งหนึ่งในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดีต่อไป

RELATED ARTICLES