รวบหนุ่มแสบ หลอกเปลี่ยนสัญชาติ ให้กับต่างชาติที่อยากได้สัญชาติไทย

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สั่งการ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์  รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.อรรชวศิษฎ์ ศรีบุญยมานนท์ ผู้กำกับการสืบสวน3กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ และ พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รองผู้กำกับการสืบสวน3กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.ต.วรุตม์ คำหล้า สารวัตรกองกำกับการสืบสวน3กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย ร.ต.อ.พิชชากร กองสวัสดิ์ ,ร.ต.อ.พงศธร อารีย์ รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวน3กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เข้าจับกุมตัว นายธนิตพงศ์ นรวิไชยภัสร์ อายุ 48 ปี ตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ที่ 171/2567 ลงวันที่ 24 พ.ค.2567 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์” จับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถคอนโดหรู ย่านรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ

พฤติการณ์กล่าวคือ นายธนิตพงศ์ ผู้ต้องหารายนี้ มีพฤติกรรม รับทำหนังสือเดินทางปลอม และเปลี่ยนสัญชาติให้กับต่างชาติที่อยากได้สัญชาติไทย ต่อมามีผู้เสียหายติดต่อทำพาสปอร์ตสัญชาติไทย โดยนายธนิตพงศ์ ได้เก็บค่าดำเนินการ เป็นจำนวนเงิน 600,000 บาท เป็นค่ามัดจำในการทำพาสปอร์ต ผู้เสียหายจึงได้โอนเงินไปยังบัญชีธนาคารชื่อบัญชี TENGYONG เป็นจำนวนเงิน 600,000 บาท  ต่อมานายธนิตพงศ์ ได้ออกอุบายอีกว่า ถ้าอยากดำเนินการเร็วขึ้นต้องเพิ่มเงิน ผู้เสียหาย จึงโอนเงินไปยัง บัญชีธนาคารชื่อบัญชี TENGYONG เป็นจำนวนเงิน 1,300,000 บาท รวมเป็นจำนวนเงิน 1,900,000 บาท ต่อมาไม่สามารถติดต่อกับนายธนิตพงศ์ ได้ จึงเชื่อว่าน่าจะถูกหลอกลวง เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวนดำเนินคดีจนมีการออกหมายจับไว้ กระทั่งชุดจับกุมติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว

สอบสวน นายธนิตพงศ์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่า ก่อนช่วงโควิดตนรับทำหนังสือเดินทางและเปลี่ยนสัญชาติให้กับต่างชาติที่อยากได้สัญชาติไทย สามารถทำให้กับต่างชาติที่ร้องเพลงชาติไม่ได้ เขียนภาษาไทยไม่ได้ ไม่มีคู่สมรสเป็นคนไทย สามารถทำให้ได้สัญชาติไทยได้ โดยจะเก็บค่าดำเนินการจำนวน 2.5 ล้านต่อคน ต่อมารัฐบาลไทยได้ปราบปรามคนจีนสีเทาที่มีสัญชาติไทย จึงทำให้ตนไม่สามารถดำเนินการแบบเดิมได้ ประกอบกับตนถูกฟ้องล้มละลาย จึงออกอุบายให้กับกลุ่มคนที่สนใจและเชื่อว่าตนยังทำแบบเดิมได้อยู่ เก็บเงินมาใช้จ่าย เมื่อถึงกำหนด ตนไม่สามารถดำเนินการได้จึงถูกผู้เสียหายแจ้งดำเนินคดี หลังจากถูกจับกุมตนจึงรู้ว่าบิดาของตนถูกออกหมายจับด้วย จึงขอร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียว เพราะเอาบัญชีธนาคารของบิดามาใช้ บิดาตนไม่รู้เรื่องแต่อย่างใดสาเหตุที่เอาบัญชีมาใช้เนื่องจากตนถูกฟ้องล้มละลาย กลัวถูกยึดเงินที่ฉ้อโกงไป

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์  ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า ปัจจุบันมิจฉาชีพมีทุกรูปแบบและพัฒนาการอยู่ตลอดเวลา ขอให้ประชาชนใช้ชีวิตอย่างมีสติ อย่าหลงเชื่อการหลอกลวงจากมิจฉาชีพในการขอสัญชาติไทย โดยทางกรมการปกครอง ได้มีประกาศว่าด้วยการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการขอสัญชาติไทยและการตรวจคุณสมบัติของผู้ขอมีสัญชาติไทย ดังนั้นการขอสัญชาติไทยจะต้อง ถือปฏิบัติตามประกาศกรมการปกครอง ขอให้ผู้มีความประสงค์ขอสัญชาติไทยได้พิจารณาอย่างละเอียด รอบคอบ อย่าได้หลงเชื่อมิจฉาชีพ ผู้แสวงหาผลประโยชน์ จนเป็นเหตุให้สูญเสียซึ่งทรัพย์สินใดๆ

RELATED ARTICLES