สกัดจับแก๊งอุ้มเรียกค่าไถ่พ่อค้าใบกระท่อมที่สุรินทร์

 

กรณีเหตุอุจฉกรรจ์สะเทือนขวัญ คนร้ายร่วมกันลักพาตัวและกรรโชกทรัพย์เหยื่อกลางเมืองสุรินทร์ หลังจากสถานีตำรวจภูธรเมืองสุรินทร์รับแจ้งจากนายชนวีร์ แสนกล้า อายุ 20 ปี ที่อยู่ 40 หมู่ 8 ตำบลกาเกาะ อำเภอเมืองสุรินทร์ระบุระหว่างขายใบกระท่อมอยู่กับนายตระการ โภชน์สาลี อยู่ร้าน ภายในซอยตาทิพย์ 2 ตำบลนอกเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ได้มีรถอีซูซุแคบสีดำทะเบียนฉะเชิงเทราไม่ทราบทะเบียนขับมาจอดหน้าร้าน ก่อนมีชาย 3 คนสวมแมสก์ปิดบังใบหน้าลงมาอุ้มนายตระการขึ้นรถหายไป ทำทีคล้ายเจ้าหน้าที่สืบสวนอ้างเป็นคนของนักการเมืองพรรคหนึ่ง

ต่อมา เจ้าหน้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบชายวัยรุ่นจำนวน 3 คนนำตัวเหยื่อขึ้นรถกระบะแคปหน้าร้านจำหน่ายใบกระท่อมจริง มี น.ส.ปาณิสรา สุระชาติ แฟนสาวผู้เสียหายให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า แฟนหนุ่มติดต่อให้ขับรถติดตามจีพีเอสจากเครื่องไอแพดพิกัดแยกหนองเต่า ตำบลเฉนียง อำเภอเมืองสุรินทร์ จากนั้นผู้ก่อเหตุได้สนทนาผ่านเฟซบุ๊กเหยื่อให้โอนเงินมายังหมายเลขบัญชีธนาคารกสิกรจำนวน 1 ล้านบาท  มีการต่อรองเหลือ 5 แสนบาทแลกกับการปล่อยตัวเป็นเงินสดส่งมอบที่ห้างฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต อำเภอเมืองปทุมธานี

อย่างไรก็ตามการตรวจสอบสัญญาณจีพีเอสพบเหยื่ออยู่บริเวณอำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ บนถนนหมายเลข 24 มุ่งหน้าจังหวัดนครราชสีมา พล.ต.ต.สุคนธ์ ศรีอรุณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ได้จัดกำลังติดตามประสานสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจทางหลวง สกัดจับรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีดำ ทะเบียน บว 6318 ฉะเชิงเทรา ตามตำหนิรูปพรรณและสัญญาณจีพีเอสบริเวณถนนมิตรภาพ กิโลเมตรที่ 50 ตำบลกลางดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วยเหลือนายตระการ โภชน์สาลี อายุ 23 ปี เหยื่อลักพาตัวได้สำเร็จ พร้อมควบคุมตัวนายบรรณสิทธิ์ หรืออาร์ม วงษ์นาค อายุ 26 ปี อ้างเป็นกรรมาธิการตรวจสอบเรื่องของผิดกฎหมาย นายกริชชัย หรืออ้อ สุวรรณกิจ อายุ 26 ปี คนขับรถ  และนายประสิทธิภาพ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ของกลางปืนอัดแก๊ส รูปทรง กล็อก 19 จำนวน 1 กระบอก

จากการสอบสวนนายตระการผู้เสียหายระบุวันเกิดเหตุมีชาย 3 คน อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของพรรคการเมืองพรรคหนึ่งมาตรวจสอบเรื่องผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ อ้างว่า ตนแอบขายใบกระท่อมจึงมาหาที่หน้าร้าน และขู่ว่าถ้าไม่อยากให้ถูกดำเนินคดีต้องจ่ายเงินหนึ่งล้านบาท ด้วยความที่ไม่มีเงิน ถึงต่อรองเหลือมีห้าแสนบาท และหากจะเอาต้องมาเอาเงินสดที่แฟนสาว กลุ่มผู้ต้องไม่พอใจกระชากแขนขึ้นรถจะพามากรุงเทพมหานคร และใช้โทรศัพท์ส่งข้อความไปหาแฟนสาวข่มขู่จะทำร้ายหากไม่ส่งเงินเข้าบัญชี ฝ่ายหญิงถึงแจ้งความกระทั่งตำรวจทางหลวงนครราชสีมาสกัดจับได้ จากการสืบสวนขยายผลยังพบกลุ่มผู้ต้องหาเคยก่อเหตุลักษณะเดียวกันในพื้นที่อำเภอลำดวน จังหวัดสุรินทร์  แต่ยังไม่มีผู้เสียหายมาแจ้งความดำเนินคดี

RELATED ARTICLES