ตำรวจภาค 8 ขยายผลค้นแหล่งเงินกู้นอกระบบในสุราษฎร์ธานี

 

พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมด้วย  พล.ต.ต.ธรรมนูญ ประยืนยง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8  พ.ต.อ.จิตปะพัฒน์ เอกโพธิ์ ผู้กำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 บูรณาการกำลัง พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.ไพศาล สังข์เทพ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พ.ต.ท.สุริยัน เพชรช่วย สารวัตรใหญ่ สถานีตำรวจภูธรบางสวรรค์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายเงินกู้นอกระบบตามนโยบาย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบถือเป็นการฟื้นฟู สภาพความเป็นอยู่ สร้างความมั่นคงให้ประชาชนในสังคม นายกรัญมนตรีกำหนดนโยบายการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบด้วยมาตราการช่วยเหลือ ให้ลูกหนี้และเจ้าหนี้ลงทะเบียน เพื่อทราบปัญหาที่เกิดขึ้น จากนั้นให้เจ้าหน้าที่ภาครัฐบูรณาการ ไกล่เกลี่ยและประนอมหนี้ข้อพิพาททางแพ่งที่ดำเนินการไปส่วนหนึ่งแล้ว มีฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ เฝ้าระวัง สอดส่องบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์เป็นผู้กระทำผิด เช่น นายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบ เรียกรับดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด เมื่อพบว่ามีการฝ่าฝืนจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย

ทำให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ์ รักษาราชการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 และตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ข้ารวบรวมพยานหลักฐาน จนเป็นที่แน่ชัดว่า
ข้อ 4 การสืบสวนพบบริเวณบ้านเลขที่ 5 หมู่ 4 อำเภอบางสวรรค์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ใช้เป็นที่จอดรถหลักประกันในการกู้ยืมเงินจากนายสันติ สิทธิฤทธิ์ ก่อนยื่นคำร้องขอหมายจากศาลจังหวัดเวียงสระเข้าตรวจค้นอายัดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถยนต์กระบะบรรทุก รถขุดตักดินจำนวน 73 คัน เป็นรถที่อยู่ระหว่างการเช่าซื้อ 55 คัน และผู้กู้เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ 16 คัน อยู่ระหว่างตรวจสอบ 2 คัน รวมมูลค่า 22 ล้านบาทเศษ  ขณะเดียวกันยังพบหลักฐานการกู้ยืมที่เรียกอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด สำเนาคู่มือทะเบียนรถ หนังสือมอบอำนาจ รวมมูลหนี้จำนวน 5,626,000 บาท แจ้งข้อกล่าวหาประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล โดยไม่ได้รับอนุญาต และให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงิน หรือ กระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางการกู้ยืมเงิน โดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด รวมถึงตั้งโรงรับจำนำโดยไม่ได้รับอนุญาต

 

RELATED ARTICLES