พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี , พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รองผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล สั่งการให้ พ.ต.ต.ทศรัสมิ์ กิติธารา สารวัตรกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ร.ต.อ.ธนพล มโนษร , ร.ต.อ.ปฏิภาน ไกรลาศฉิมพลี รองสารวัตรกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาลดำเนินการจับกุม นางสาวภัทรานิษฐ์ ทานอก อายุ 31 ปี ชาวจังหวัดชัยภูมิ พร้อมของกลาง ซิมโทรศัพท์เคลื่อนที่ เครือข่าย เอไอเอส ที่ลงทะเบียนพร้อมใช้งานแล้ว จำนวน 200 ซิม, โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ VIVO x100 สีดำ จำนวน 1 เครื่อง สถานที่จับกุม บริเวณถนนสาธารณะปากซอยลาดพร้าว 107 แยก 13 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า นางสาวภัทรานิษฐ์ ผู้ต้องหารายนี้ มีพฤติกรรมใช้แอปพลิเคชันเฟซบุ๊ก ชื่อผู้ใช้ “ Putr Putr ” ลักลอบขายซิมโทรศัพท์เคลื่อนที่ เครือข่าย เอไอเอส ที่ลงทะเบียนพร้อมใช้งาน จึงส่งสายลับทำการติดต่อล่อซื้อ จำนวน 200 ซิม ในราคา 20,000 บาท โดยจะจ่ายเป็นเงินสดที่จุดนัดพบ ต่อมา นางสาวภัทรานิษฐ์ ได้นัดหมายกันในวันที่ 13 มิถุนายน 2567 เวลาประมาณ 00.00 น. ที่ซอยลาดพร้าว 107 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร เมื่อถึงบริเวณที่นัดหมาย นางสาวภัทรานิษฐ์ ได้แจ้งว่า ให้ตรงเข้าไปภายในซอยลาดพร้าว 107 จนถึงบริเวณหน้าร้ายไอศกรีม พบ นางสาวภัทรานิษฐ์ กำลังถือโทรศัพท์พูดคุยและถือถุงพลาสติกหูหิ้วมีสิ่งของอยู่ด้านใน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เข้าไปแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และขอตรวจสอบสิ่งที่อยู่ในถุงพลาสติก ปรากฏพบเป็น ซิมโทรศัพท์เคลื่อนที่ เครือข่าย เอไอเอส จำนวน 200 ซิม จึงยึดไว้เป็นของกลาง
สอบสวน นางสาวภัทรานิษฐ์ ได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดนส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลลาดพร้าว ดำเนินคดีในข้อหา “เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อหรือขายเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ ” ตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2566”
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ฝากเตือนผู้ที่คิดจะทำอาชีพขายบัญชีม้าหรือซิมม้านั้น ได้ไม่คุ้มเสียกับโทษทางอาญา ขอให้คิดให้ดี ซึ่งตามกำหมายนั้น ผู้ใดเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก (คนเปิดบัญชีม้า) บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์(คนเปิดซิมม้า)สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ