พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย ,พ.ต.อ.นิวัฒน์ พึ่งอุทัยศรี รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวน2รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล สั่งการ พ.ต.ท.นิติกรณ์ ระวัง รองผู้กำกับการสืบสวน2กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบา ล พ.ต.ท.วุฒิพันธุ์ ผะอบทอง, พ.ต.ต.กิติพัฒน์ ใจอารีรอบ ,พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ จงเจริญ, พ.ต.ต.สมพร คำเกตุ สารวัตรกองกำกับการสืบสวน2กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล นำกำลังชุดปฏิบัติการที่ 4 จับกุมตัว นายอนุวัฒ ภิรมย์จันทร์ อายุ 22 ปี พร้อมของกลาง อาวุธปืน ( ประดิษฐ์ ดัดแปลงลำกล้อง ) ขนาด .380 จำนวน 1 กระบอก, แม็กกาซีน จำนวน 1 อัน
ก่อนทำการจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาลได้ออกติดตามสืบสวนหาข่าวเพื่อจับกุมผู้กระทำความผิดที่ลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน โดยใช้สื่อโซเชียลมีเดีย เป็นช่องทางในการติดต่อเรื่อยมา กระทั่ง พบนายอนุวัฒน์ ผู้ต้องหารายนี้ ใช้บัญชีเฟซบุ๊กเสนอขาย อาวุธปืน (ประดิษฐ์ ดัดแปลงลำกล้อง ) ขนาด.380 ในราคา 10,000 บาท จึงส่งสายลับติดต่อล่อซื้อ โดยนัดหมายให้มารับ บริเวณลานจอดรถหน้าวัดปุรณาวาส แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ โดยมี พ.ต.ต.สมพร คำเกตุ เป็นผู้ขับรถยนต์ไปกับสายลับด้วย เมื่อไปถึงจุดนัดหมาย นายอนุวัฒน์ ได้เดินมาที่รถยนต์ของสายลับ เพื่อทำการซื้อขายอาวุธปืน เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นอาวุธปืนจึงส่งเงินสดให้ 6,500 บาท ส่วนที่เหลืออีก 3,500 บาทจะโอนเข้าบัญชีนายอนุวัฒน์ พร้อมส่งสัญญาณให้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เฝ้าสังเกตุการณ์โดยรอบเข้าทำการจับกุมตัวพร้อมของกลางได้ดังกล่าว
สอบสวน นายอนุวัฒน์ ให้การว่า ได้เสนอขายอาวุธปืนดังกล่าวในราคา 10,000 บาทจริง จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางทั้งหมดส่ง พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลธรรมศาลา ดำเนินคดีในข้อหา “จำหน่ายอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีอาวุธปืนในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร”
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ฝากเตือนผู้ซื้อ-ขายปืนออนไลน์ มีความผิดทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ ผู้ซื้ออาวุธปืนออนไลน์มีความผิดฐาน “ซื้อ มี ใช้ สั่ง หรือนำเข้า อาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต” มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท ส่วนผู้ขายมีความผิดฐาน “ทำ ประกอบ มี หรือจำหน่ายอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต” มีโทษจำคุกตั้งแต่ 2-20 ปี และปรับตั้งแต่ 4,000-40,000 บาท