สืบนครบาล – สืบหัวหมาก รวบไรเดอร์หนุ่ม ขบวนการหลอกซื้อนาฬิกาหรู ออกอุบายให้ส่งสินค้าก่อนอ้างตัวเป็นเจ้าของมารับสินค้าคืน

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผู้กับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษกองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล สั่งการ พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฏศรี, พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รองผู้กับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษกองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.ท.ธีวร์ราธิป ชูดวง สารวัตรกองกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษกองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ร.ต.อ.พีระเกียรติ ศิริฤทัยวัฒนา ,ร.ต.ท.ณรงค์ศักดิ์ สนิทไทย ,ร.ต.ท.สุนทร จันทะแจ่ม รองสารวัตรกองกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษกองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลหัวหมาก เข้าจับกุม นายนันทวัฒ คุ้มกุมาร อายุ 35 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2937/2567 ลงวันที่ 21 มิถุนายน 2567 “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น” จับกุมที่บริเวณภายใน ซอยลาดพร้าว 136 แยก 1 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร

พฤติการณ์เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 67 ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของรานนาฬิกาแจ้งว่า ได้มีชายไม่ทราบชื่อ โทรศัพท์ติดต่อมาขอซื้อนาฬิกายี่ห้อ PATEK PHILIPPE รุ่น 5165 A -001 สีเงินสายยางสีดำและได้ตกลงซื้อ-ขายในราคา 2,400,000 บาท ต่อมาวันที่ 14 พ.ค. 67 เวลา 11.50 น. ผู้เสียหายได้นำนาฬิกาไปส่งที่ร้านที่ขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง ภายในซอยรามคำแหง 21 แต่ระหว่างรอผู้ซื้อโอนเงินมา นายนันทวัฒ ผู้ต้องหารายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์สวมเสื้อไรเดอร์ มาแสดงตัวเป็นเจ้าของนาฬิกากับเจ้าของร้านบริษัทขนส่ง และอ้างว่าไม่ต้องการที่จะส่งสินค้าพร้อมขอสินค้าคืน พนักงานร้านจึงได้ส่งมอบนาฬิกาให้ไป ต่อมาผู้เสียหายได้ไปสอบถามพนักงานร้านพบว่าได้มีคนมารับนาฬิกาไปแล้ว จึงเข้าแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจนครบาลหัวหมาก กระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายนันทวัฒ และพักอาศัยอยู่ย่านลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร จึงนำกำลังติดตามจับกุมได้ดังกล่าว

สอบสวน นายนันทวัฒ ให้การรับสารภาพ อ้างว่า ได้ไปรับนาฬิกาที่บริษัทขนส่งเอกชน โดยการว่าจ้างจากคนหนึ่ง และให้ตนเอานาฬิกาไปขายที่ร้านรับซื้อนาฬิกา แถวเซ็นทรัลลาดพร้าว ในราคา 1,030,000 บาท ตนจะได้รับค่าจ้างจำนวน 15,000 บาท ก่อนจะโอนเงินจำนวน 1,015,000 บาทที่เหลือไปให้ผู้ว่าจ้าง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะขยายผลถึงตัวการในการฉ้อโกง และคนรับซื้อนาฬิกาอีกด้วย ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาส่ง สถานีตำรวจนครบาลหัวหมาก ดำเนินคดี

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ขอเตือนประชาชนว่าการจะซื้อขายต้องตรวจสอบผู้รับซื้อให้ละเอียด โดยเฉพาะสินค้าที่มีราคาแพง ควรนำไปขายโดยตรงกับคนซื้อ และต้องได้รับเงินก่อน เพราะมิจฉาชีพมักแฝงตัวมาในหลายรูปแบบ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ ต้องตรวจสอบให้รอบคอบ  และฝากถึงร้านรับส่งสินค้าให้ตรวจสอบบัตรประชาชน ให้ตรงกับบุคคลที่มาติดต่อ ติดตั้งกล้องวงจรปิด เป็นมาตราการสำคัญในการป้องกันและปราบปรามคนร้าย

RELATED ARTICLES