ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนทางเทคโนโลยี เมืองทองธานี พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 พล.ต.ต.จิตติพล ผลพฤกษา ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 พ.ต.อ.บัญชา ศรีสุข รองผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 พ.ต.อ.อุกฤช ศรีนิติวรวงศ์ ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 พ.ต.อ.คุณาประโยชน์ อารียรัตนะณธร ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี3 ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมคดีอาชญากรรมออนไลน์ 3 คดี
คดีแรกชุดสืบสวนนำหมายค้นศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ ค 296/2567 ลงวันที่ 24 มิถุนายน 2567 ตรวจค้นบริคบ็อกซ์ พูลวิลล่า แอนด์ คาเฟ่( Brick Box Pool Villa & Café ) เลขที่ 65 หมู่ 4 ตำบลป่าเมี่ยง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ จับกุมผู้ต้องหา 13 ราย เป็นชาวน 7 คน ชาวเมียนมา 6 คน พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ ซิมการ์ดจีน 90 เครื่อง คอมพิวเตอร์ 9 เครื่อง เอกสารเขียนด้วยลายมือภาษาจีน 1 ชุด สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนขยายผลจากพื้นที่ภาคใต้พบว่ามีการใช้อุปกรณ์เกี่ยวกับคอลเซ็นเตอร์ และกลุ่มคนจีนทำงานลักษณะเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ สืบสวนพบมีกลุ่มชาวจีน และกลุ่มคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา 10-15 คน อาศัยอยู่ลักษณะปกปิดเฉพาะกลุ่มคนจีนพักอาศัย มีรั้วกั้น มีกล้องวงจรปิด และมีการเปิดไฟส่องสว่างช่วงกลางคืน เชื่อว่ามีการทำงานของกลุ่มแก๊งคนจีน เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายค้นศาลจังหวัดเชียงใหม่เข้าตรวจพบทั้งหมดนั่งทำงานอยู่ภายในห้องพบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 1 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน้ทบุ๊ค 8 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือ 94 เครื่อง และเอกสารภาษาจีน 3 แผ่น
สอบสวนผู้ต้องให้การว่า ได้ทำหน้าที่กันเป็นกลุ่มร่วมกันหลอกลวงคนจีนที่ประเทศจีน ให้ลงทุนประกันเงินออมระยะยาว ทุกคนจะมีโทรศัพท์ประจำตัวคนละ 3 เครื่อง จากนั้นจะมีคนส่งรายชื่อคนจีนมาให้ทางแอปพลิเคชั่นเทเลแกรมในเครื่องโทรศัพท์ของแต่ละคน โดยแต่ละคนมีหน้าที่ติดต่อกับลูกค้าตามที่ได้รายชื่อมา ซึ่งเป็นรายชื่อของผู้ที่ทำประกันภัยซึ่งมีอยู่จริง จากนั้นใช้โทรศัพท์ที่มีประจำตัวแต่ละคน ที่มีอีกสองเครื่องโทรไปหลอกถามคนจีนที่ประเทศจีนว่า ประกันภัยของคุณหมดอายุแล้ว ตอนนี้คุณสนใจจะทำประกันต่อหรือจะยกเลิก ถ้าซื้อต่อจะมีราคาโปรโมชั่น มีจ่ายค่าทำประกันในราคา 800-2000 หยวน ถ้าหากมีลูกค้าสนใจก็จะบอกลูกค้าว่าจะหักเงินผ่านบัญชีอัตโนมัติ ถ้าหากไม่สนใจก็จะแจ้งให้คนที่ถูกหลอกทราบว่าจะมีพนักงานติดต่อกลับไปเพื่อกรอกข้อมูลส่วนตัวของผู้ที่ถูกหลอกสำหรับใช้ยกเลิกจากนั้นจะส่งข้อมูลของผู้ที่สนใจหรือไม่สนใจเข้าไปยังผู้ต้องหาอีกกลุ่มหนึ่งผ่านแอปพลิเคชันเทเลแกรม ทำหน้าที่รับช่วงต่อทำหน้าที่ติดต่อกับคนจีนที่ไม่สนใจทำประกันภัย แจ้งว่าเป็นประชาสัมพันธ์ของเว็บไซต์ก่อนจะส่งรายละเอียดการทำประกันภัย เมื่อถึงขั้นตอนการชำระเงินเพื่อทำประกันภัยแล้วจะส่งต่อให้กับผู้ร่วมกระทำความผิดอีกกลุ่มหนึ่ง และส่งข้อมูลให้ในไลน์กลุ่มแอปพลิเคชั่นเทเลแกรม อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ ชื่อ teng xun wei bao แจ้งให้ผู้ถูกหลอก ทราบว่า หากยกเลิกไม่ทำประกันภัยต่อก็จะถูกหักเงินอัตโนมัติ ประมาณเดือนละ 100-300 หยวน จากนั้นจะขอข้อมูลจากลูกค้าเพื่อยกเลิกการทำประกันภัย พร้อมกับส่งข้อมูลการเป็นเจ้าหน้าที่ ขอรายละเอียดเกี่ยวกับชื่อนามสกุล เบอร์โทรศัพท์ หมายเลขบัตรประชาชนของลูกค้า เมื่อได้มาแล้วก็จะส่งข้อมูลให้กับผู้ร่วมกระทำผิดอีกกลุ่มหนึ่งดูดเงินจากบัญชีของเหยื่อ
คดีที่สองจับกุมเครือข่ายหลอกวัยเกษียณลงทุน อ้างเป็นบุคคลดัง บุกค้น 6 จุดกลางกรุงเทพมหานครจับกุมผู้ต้องหาได้กว่า 30 รายพร้อมยึดของกลางได้อีกเป็นจำนวนมาก คดีนี้คนร้ายซึ่งเป็นกลุ่มผู้สูงอายุหลายรายถูกคนร้ายอ้างตัวเป็น ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล และอาจารย์คเชน เบญจกุล นักลงทุนชื่อดังหลอกลงทุนผ่านแอปพลิเคชันชื่อ “PENFOLD” และผ่านแอปพลิเคชันชื่อ “IBTM” จากการตรวจสอบข้อมูลในระบบรับแจ้งความออนไลน์ พบว่ามีคดีลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นแล้วประมาณ 40 เคสไอดี รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 200 ล้านบาท คนร้ายมักสร้างเฟซบุ๊กปลอมแอบอ้างเป็นผู้มีชื่อเสียงด้านการลงทุนใช้วิธีการแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มเฟซบุ๊กจริงที่เกี่ยวกับการลงทุน คนร้ายจะติดต่อเหยื่อเพื่อแนะนำหรือชักชวนให้เหยื่อลงทุนกับคนร้าย หากหลงเชื่อ คนร้ายจะให้เหยื่อแอดไลน์ส่วนตัวเพื่อสอนวิธีการเทรดหุ้น สร้างตัวตนในไลน์ว่าเป็นผู้ช่วยด้านการลงทุน ให้เหยื่อดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชันที่เกี่ยวกับการลงทุนซึ่งคนร้ายได้สร้างปลอมขึ้นมา แล้วหลอกให้เหยื่อโอนเงินมาลงทุนเป็นระยะ หากเหยื่อต้องการถอนเงิน คนร้ายจะอ้างเหตุผลต่างๆ เพื่อให้เหยื่อโอนเงินเพิ่มก่อนถึงจะถอนเงินได้ สุดท้ายก็ไม่สามารถถอนเงินออกมาได้จริง
ต่อมาสืบสวนเส้นทางการเงินพร้อมรวบรวมพยานหลักฐานจนนำไปสู่การขออำนาจศาลออกหมายจับกลุ่มคนร้ายได้จำนวน 66 หมายจับ จับกุม 30 ราย ทั้งกลุ่มแอดมิน ผู้จัดหาบัญชีม้า รวมถึงบัญชีม้า มีผู้ต้องหา คือ รายสำคัญ น.ส.ปานชีวัน (สงวนนามสกุล)อายุ 33 ปี และ ฃน.ส.ชานิภา (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี เป็นบุคคลใกล้ชิดกับชาวจีนระดับหัวหน้าขององค์กร ทั้ง 2 คนทำหน้าที่เป็นผู้จัดหาบัญชีม้าและจัดหาคนเข้ามาทำงานในองค์กร วิธีการประกาศรับสมัครงานผ่านทางเฟซบุ๊ก นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ตรวจยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ 14 เครื่อง โทรศัพท์ จำนวน 6 เครื่อง เอกสารการรับสมัครงาน สมุดบัญชีธนาคารเอกสารสคริปต์บทสนทนาของคนร้ายที่เตรียมไว้สำหรับหลอกเหยื่อ และเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดอีกหลายรายการ
คดีที่สามจับกุมเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ 2 เครือข่าย yeslotto.online มีสมาชิกผู้เล่นกว่า 4,000 คน มียอดเงินหมุนเวียนเดือนละกว่า 80 ล้านบาท จับกุมผู้ต้องหา 3 ราย เป็นผู้จัดการ 1ราย และผู้ดูแลการเงิน 2 ราย ตรวจยึดของกลางกว่า 20 ล้านบาท และเครือข่าย 888henglotto.com มีสมาชิกผู้เล่นกว่า 8,000 คน มียอดเงินหมุนเวียนเดือนละกว่า 10 ล้านบาท จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้รวม 6 ราย คือ ผู้จัดการ 2 ราย ผู้ดูแลการเงิน 2 ราย พนักงาน และบัญชีม้า 2 ราย อีกทั้งยังตรวจพบผู้กระทำความผิดเป็นพนักงานจำนวน 1 ราย นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป