พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ พร้อมด้วยนายกฤศกร สนิทศักดิ์ดี ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขต 1 และ ตัวแทนจาก ป.ป.ช. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมคดีสำคัญเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่รัฐทุจริตตอหน้าที่ จำนวน 2 คดี
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า สำหรับคดีแรกตำรวจ บก.ปปป. ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. จับกุม นายชยุต หนองหาร อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ที่ 17/67 ลงวันที่ 3 ก.ค. 2567 ข้อหา “เป็นเจ้าพนักงาน เรียกรับทรัพย์สินโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งหน้าที่ ,เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ,เป็นเจ้าพนักงานของรัฐเรียก รับผลประโยชน์ และ เป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ” พร้อมของกลาง เงินสดจำนวน 9 หมื่นบาท อาวุธปืน 1 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุน 10 นัด โดยจับกุมตัวได้ที่อาคารสำนักงานเทศบาลเมืองใหม่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีผู้เสียหายรายหนึ่งยื่นขอใบอนุญาตก่อสร้างอาคารพาณิชย์ ที่ สำนักงานเทศบาลเมืองใหม่บางบัวทอง จ.นนทบุรี แต่กลับถูก นายชยุต ซึ่งมีตำแหน่งเป็น ผอ.กองช่าง เรียกเงินจำนวน 180,000 บาท เพื่อแลกกับการออกใบอนุญาตให้ อ้างว่าเป็นค่าอำนวยความสะดวก ก่อนมีการต่อรอง ลดราคาเหลือ 100,000 บาท แต่ด้วยความที่ผู้เสียหายมองว่าไม่เป็นธรรมกับตนเอง รวมถึงไม่ยินยอมที่จะจ่ายเงินดังกล่าว เนื่องจากในความเป็นจริงค่าธรรมเนียมในการขอใบอนุญาตนั้นไม่น่าจะเกิน 4,000 บาท จึงนำเรื่องเข้าร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. จนมีการวางแผนส่งเจ้าหน้าที่แฝงตัวเข้าไปขณะส่งมอบเงินงวดแรกจำนวน 1 หมื่นบาท เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานจนนำมาสู่การออกหมายจับ กระทั่งต่อมาเมื่อถึงกำหนดนัดหมายส่งมอบเงินส่วนที่เหลืออีก 9 หมื่นบาท จึงร่วมกันวางแผนเข้าจับกุมตัวขณะกำลังรับมอบเงินจนสามารถจับกุมตัวได้พร้อมเงินของกลางดังกล่าว ทั้งนี้จากการสอบสวน นายชยุต ยังคงให้การภาคเสธ อ้างว่ารับเงินจากผู้เสียหายจริงแต่เป็นเงินค่าดำเนินการอื่นๆไม่ใช่การเรียกรับเงินแลกออกใบอนุญาต แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการ
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า สำหรับคดีต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. จับกุมนายอรุณ สหธรรมปกรณ์ อายุ 71 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ 84/66 ลงวันที่ 11 ก.ค. 2566 ข้อหา “เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 172/165 หมู่บ้านอิงธาร ม.4 ต.ท่าอ่าง อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา โดยผู้ต้องหารายนี้เป็นอดีตผู้อำนวยการศูนย์เดินสำรวจออกโฉนดที่ดินในพื้นที่ จ.นครราชสีมา แต่กับเข้าไปมีส่วนเกี่ยวพันกับการนำที่ดิน สาธารณประโยชน์มาออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบให้กับ กลุ่มนายทุนผู้ประกอบการจำนวนมากโดยเฉพาะพื้นที่ทำเลทอง รีสอร์ทขนาดใหญ่ 2,000 ไร่ บริเวณเขาใหญ่ อำเภอปากช่อง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีมูลค่าหลายร้อยล้านบาท รวมถึงที่ดินในพื้นที่เขตเศรษฐกิจ อีกหลายอำเภอทั่วจังหวัดนครราชสีมา สร้างความเสียหาย เป็นจำนวนหลายพันไร่ โดยผู้ต้องหาหลบหนีการจับกุมมาตลอดและเหลืออายุความอีกเพียง 2 เดือน เท่านั้น เบื้องต้น ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ด้านนายกฤศกร กล่าวว่า พฤติกรรมของนายอรุณ จากหลักฐานพบว่าในขณะที่ยังดำรงตำแหน่งได้มีการนำส.ค.1 ที่ออกในพื้นที่ อ.ปักธงชัย แต่กลับไปออกโฉนดข้ามอำเภอที่ อ.สูงเนิน หรือที่เรียกกันว่า ส.ค.1 บิน โดยพื้นที่ที่ออกเป็นพื้นที่ซึ่งกรมที่ดินได้มีหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง โดยมีการออกโฉนดบริเวณกึ่งกลางแปลงของที่ดินดังกล่าว ซึ่งพฤติกรรมของกลุ่มนี้ยังได้มีการออกโฉนดที่ดินในอีกหลายพื้นที่ โดยทางป.ป.ท.ได้ไต่สวนและดำเนินคดีกับกลุ่มนี้เมื่อปี 2560 ซึ่งศาลได้ตัดสินจำคุก 2 ปี และเพิ่งออกจากเรือนจำมา เมื่อทราบว่ามีหมายจับจึงหลบหนี มาโดยตลอด เจ้าหน้าที่ได้ติดตามจนสามารถจับกุมตัวไว้ได้ ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่ามีการออกโฉนด จำนวน 80 แปลง หรือเนื้อที่กว่า 2,000 ไร่ รวมถึงจุดแลนด์มาร์คของเขาใหญ่ ซึ่งที่ดินที่ออกโดยมิชอบจะต้องถูกเพิกถอน ทั้งนี้ได้แจ้งกรมที่ดินไปตั้งแต่ปี 2563-2564 แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการเพิกถอนแต่อย่างใด
นายกฤศกร กล่าวอีกว่า ทั้งนี้สำหรับคดีดังกล่าว ได้มีการออกหมายจับไว้ 5 หมายจับ โดยเสียชีวิตไปแล้ว 1 คน จับกุมตัวได้วันนี้ 1 คน คงเหลืออีก 3 คนที่ยังหลบหนีอยู่ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่รังวัด, ผู้กำกับการรังวัด และผู้กำกับเดินสำรวจโฉนดที่ดิน โดยจะต้องดำเนินการติดตามจับกุมตัวให้ได้ครบทุกคนเพื่อดำเนินคดี สำหรับอดีตผู้อำนวยการศูนย์ฯ ที่จับกุมตัวได้วันนี้จากการตรวจสอบพบว่ายังมีหมายจับ 3 หมาย