พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราบ (บก.ป.) พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ, พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รองผู้บังคับการปราบปราบ สั่งการ พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผู้กำกับการ1กองบังคับการปราบปราบ พ.ต.ท.อัครพล มณีวรรณ, พ.ต.ท.สมเดช สาระบรรณ์, พ.ต.ท.ธนศักดิ์ สว่างศรี, พ.ต.ท.อภิชน ขันกา และ พ.ต.ท.พชรเดช บุญฤทธิ์ รองผู้กำกับการ1กองบังคับการปราบปราบ ว่าที่ พ.ต.ต.มณเฑียร ธงเทียน สารวัตรกองกำกับการ1กองบังคับการปราบปราบ นำกำลังจับกม นายอัครพงษ์ วงศ์จินดาโชติ หรือ นายมานพ โลกวิทย์ อายุ 57 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ จ.331/2555 ลงวันที่ 26 มิถุนายน 2555 ข้อหา “ร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางานหรือส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้ จัดหางานให้คนงานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน หรือร่วมกันฉ้อโกง” บริเวณหน้าหอพักในพื้นที่ ถนนสิรินธร แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเดือนธันวาคม 2552 ผู้เสียหายจำนวน 6 คน ได้เข้าร้องทุกข์ กับสำนักงานจัดหางานว่า ถูกกลุ่มผู้ต้องหาหลอกลวงว่า สามารถพาไปทำงานต่างประเทศได้ แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายคนละ 220,000 บาท ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงยอมจ่ายเงินตามจำนวน แต่สุดท้ายไม่ได้เดินทางไปทำงานตามที่ตกลงไว้ กลุ่มผู้เสียหายจึงได้ติดต่อกลุ่มผู้ต้องหาเพื่อขอเงินคืนและได้ทำสัญญาคืนเงินตามจำนวนเงินที่ได้จ่ายไป โดยได้นัดคืนเงินในเดือนกุมภาพันธ์ 2553 แต่เมื่อถึงกำหนดกลุ่มผู้ต้องหาไม่นำเงินมาคืนและไม่สามารถติดต่อได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานสารมารถออกหมายจับผู้ต้องหาไว้ 3 ราย พร้อมเรียกทั้ง 3 รายมารับทราบข้อกล่าวหา แต่มีแค่นายสำเนียง บุตรดีคำ อายุ 56 ปี ที่เข้ารับทราบข้อกล่าวหาเพียงคนเดียว ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุม นายอาจินต์ ลีนอินทร์ อายุ 54 ปี เพิ่มอีก 1 รายคงเหลือแต่ นายอัครพงษ์ ผู้ต้องหารายนี้ ที่ยังหลบหนีเป็นเวลากว่า 14 ปี จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า นายอัครพงษ์ได้หลบหนีอยู่กับคนรู้จักในพื้นที่ เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร จึงนำกำลังลงพื้นที่ติดตามจับกุมได้ดังกล่าว
สอบสวน นายอัครพงษ์ เบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมไม่ปักใจเชื่อ จากการตรวจสอบประวัติพบ หมายจับของศาลแขวงพัทยาที่ 93/2564 ลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน ฉ้อโกงทรัพย์ และเคยถูกดำเนินคดีในข้อหา “ฉ้อโกง” กว่า 5 คดี รวมมูลค่าความเสียหายนับล้านบาท ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสอบสวน สถานีตำรวจภูธรทุ่งฝน จังหวัดอุดรธานี และประสานพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา เจ้าของคดีให้ทำการอายัดตัวผู้ต้องหาดำเนินคดีต่อไป