บุกจับหนุ่มแดนปลาดิบ เหิมขู่ฆ่าอดีตแฟนสาว พบประวัติเอี่ยวแก๊งอุ้มโหดกลางกรุงโตเกียว

​พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. สั่งการ พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผบก.ตม.1 นำกำลังเจ้าจับกุมMr.Fujiwara (นามสมมติ) สัญชาติญี่ปุ่น อายุ 30 ปี เนื่องจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้ดำเนินการสืบสวนเกี่ยวกับชายชาวญี่ปุ่นลักษณะเป็นภัยต่อสังคม

พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวว่า เนื่องจากเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.67 ที่ผ่านมา นางสาวบี (นามสมมติ) ถูกผู้ต้องหารายนี้ เป็นอดีตแฟนหนุ่ม ทำร้ายร่างกาย และกักขังหน่วงเหนี่ยว ก่อนเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน กก.สส.บก.ตม.1 ภายหลังรับแจ้งความจึงตรวจสอบสถานะการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร พบว่า อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด จึงได้ติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้เสียหายโดยตรง ได้ข้อมูลว่าผู้ต้องหามีอารมณ์รุนแรง มักจะส่งข้อความมาขู่ฆ่า ส่งรูปอาวุธปืน เครื่องกระสุน หรือคลิปวิดิโอ ที่ถ่ายในบริเวณละแวกบ้านพักของผู้เสียหาย มาเพื่อคุกคาม และแสดงให้เห็นว่าผู้เสียหายถูกติดตามและจับตาดูอยู่ เจ้าหน้าที่จึงมาวางกำลังคุ้มครองผู้เสียหาย พบรถต้องสงสัยมาวนเวียนไปมา ที่บริเวณริมถนนหน้าสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ถนนเจริญกรุง แขวงบางบางคอแหลม กรุงเทพฯ โดยเป็นรถยนต์หรูยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลพาร์ด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสังเกตความเคลื่อนไหวจนมั่นใจว่าเป็นรถที่น่าจะมีผู้ต้องสงสัยอยู่ จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าวดู พบว่ามี Mr.Fujiwara สัญชาติญี่ปุ่น นั่งอยู่ในรถยนต์จึงจับกุมตัวไว้ได้ดังกล่าว

“เบื้องต้นจึงควบคุมตัวส่ง พงส.บก.สส.สตม. ดำเนินคดีในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ประสานข้อมูลกับทางการญี่ปุ่นพบว่า เป็นสมาชิกองค์กรอาชญากรรม ในประเทศญี่ปุ่น ได้ร่วมกับพวกรวม 5 คน ก่อเหตุอุ้มลักพาตัว ทำร้ายร่างกายและกักขังหน่วงเหนี่ยว ในเขตกรุงโตเกียว ก่อนจะหลบหนีมากบดารในประเทศไทย และมาก่อความรุนแรงกับหญิงไทยอีกด้วย” พล.ต.ต.พันธนะ กล่าว

พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวต่ออีกว่า อีกคดี กก.สส.บก.สตม.จับกุม MR.WEI CHIA-MING (นามสมมติ) อายุ 53 ปี สัญชาติไต้หวัน ก่อนจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งพบ ชายต้องสงสัยเข้ามาอยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมายบริเวณที่พักอาศัยซอยแจ้งวัฒนะ 10 เขตหลักสี่ กทม.จึงสืบสวนหาข่าวทราบว่าชายคนดังกล่าวอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดแล้วและประสานงานกับสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทยตรวจสอบประวัติพบมีประวัติก่ออาชญากรรมความผิดฐานฉ้อโกงเงินของรัฐบาลโดยปลอมแปลงเอกสารใบรับรองแพทย์ของบุคคลอื่นและแอบอ้างเป็นทนายความเพื่อเบิกเงินสวัสดิการ ประกันสังคม ส่วนใหญ่เป็นแรงงานคนไทยที่เคยไปทำงานไต้หวันมูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท กก.สส.บก.ตม.1 จึงเฝ้าติดตามสืบสวน ทราบว่าผู้ต้องหาแอบมาหลบซ่อนตัวอยู่กับหญิงไทยจึงวางแผนจับกุมในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” ส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดำเนินคดี

RELATED ARTICLES