นายกรัฐมนตรีเปิดงานรวมพลังชุมชนอีสานเหนือสู้ภัยยาเสพติด

ที่อาคารเอนกประสงค์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปเป็นประธานเปิดงานรวมพลังชุมชนอีสานเหนือ สู้ภัยยาเสพติด มี นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ร่วมต้อนรับ ท่ามกลางประชาชนมาร่วมงานกว่า 7,000 คน

ในงานมีการจัดแสดงการป้องกัน สกัดกั้น ปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ภาคอีสานเหนือ 12 จังหวัด การนำเทคโนโลยีมาช่วยในการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิด มีการร่วมร้องเพลง และร่วมใจรวมพลังประกาศไม่เอายาเสพติด  ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เพลงสดุดีจอมราชา เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ หรือ 72 พรรษาในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567

งานรวมพลังชุมชนอีสานเหนือ สู้ภัยยาเสพติด มีขึ้นเพื่อรวมพลังทุกภาคส่วน ร่วมแก้ปัญหายาเสพติดให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมตามนโยบายรัฐบาล  นายเศรษฐา ทวีศิลป์ นายกรัฐมนตรี ขอให้ทุกภาคส่วนรวมพลังกันสู้ภัยยาเสพติดที่ผ่านเข้ามาตามแนวชายแดน และเข้ามาในพื้นที่ในภาคอีสานเหนือ และขอบคุณทุกหน่วยงานที่มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหายาเสพติดทั้ง 12 จังหวัดที่เป็นเป้าหมายของรัฐบาล  ให้ทุกภาคส่วนรวมพลังกันทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ  ทหาร สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สาธารณสุข และภาคประชาชน พื่อให้ปัญหายาเสพติดลดความรุนแรง ทำให้ประชาชนมีความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด

สำหรับในพื้นที่ภาคอีสานเหนือ มีการกวาดล้างปราบปรามยาเสพติดมาอย่างต่อเนื่อง  ตามนโยบายของ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ได้เปิดปฏิบัติการเด็ดปีกนักค้าอีสานเหนือ 252 ทำงานเชิงรุกเข้าไปปราบปรามยาเสพติดในชุมชน และหมู่บ้าน ทั้ง 12 จังหวัดอีสานเหนือ ตั้งแต่เดือน ธันวาคม 2566 ถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลากว่า 7 เดือน  มีการปฏิบัติการในพื้นที่กว่า 531 ชุมชน จาก 16,213 หมู่บ้าน 787 ชุมชน  จับกุมนักค้ารายย่อยได้ 8,165 ราย ยึดยาบ้ากว่า 49,442,598 เม็ด ไอซ์กว่า 1,428 กิโลกรัม เฮโรอีนกว่า 290 กิโลกรัม ยึดทรัพย์มูลค่ากว่า 558,052,035 บาท ไล่ล่านักค้ายาเสพติดตามหมายจับ 614 ราย ขยายผลสมคบ 199 ราย กดดันและชักชวนให้ผู้เสพเข้ารับการบำบัดแล้วกว่า 3,411 คน นอกจากนี้ตำรวจภาค 4 ยังได้เข้าระงับเหตุผู้ป่วยจิตเวช และดูแลแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอีกจำนวนมาก

RELATED ARTICLES