ที่สถานีตำรวจภูธรนาหวาย อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปประชุมติดตามความคืบหน้าคดียาเสพติดที่คนร้ายยิงต่อสู่ตำรวจจนฝ่ายเจ้าหน้าที่บาดเจ็บและเสียชีวิต มี พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พ.ต.อ.ประดิษฐ์ ติ๊บมา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรนาหวาย และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม
คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 11 กรกฎาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจโรงพักนาหวายนำกำลังปิดล้อมบ้านผู้ค้ายาเสพติด ที่บ้านเจียจันทร์ หมู่ที่ 13 ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ แต่ผู้ก่อเหตุไหวตัวทันและหลบหนี เมื่อพบกับตำรวจได่ใช้ปืนลูกซองยิงใส่ ทำให้ ส.ต.ท.ศรัณยู สิงห์คำ ผู้บังคับหมู่ ฝ่ายสืบสวน สถานีตำรวจภูธรนาหวายได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกยิงที่บริเวณลำคอ และเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลเชียงดาว และ ร.ต.อ.จีระพล วังแสง รองสารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรนาหวาย บาดเจ็บ นำตัวส่งโรงพยาบาลเชียงดาว และส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลสันทราย สำหรับผู้ต้องหาที่หลบหนีอยู่ระหว่างเร่งสืบสวนติดตามจับกุม
ทั้งนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำชับการป้องกันปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ ใช้หลักยุทธวิธีในการจับกุมผู้ต้องหา และปฏิบัติตามหลักกฎหมาย รวมทั้งเน้นย้ำวิเคราะห์พื้นที่ปฏิบัติการก่อนเข้าปฏิบัติการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญหรือมีอาวุธปืน บูรณาการการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนเดินทางไปเยี่ยมบำรุงขวัญ ร.ต.อ.จีระพล วังแสง ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่รักษาตัวที่โรงพยาบาลสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ พูดคุยให้กำลังใจพร้อมมอบของเยี่ยมและเงินช่วยเหลือ
สำหรับ ส.ต.ท.ศรัณยู สิงห์คำ ผู้บังคับหมู่ฝ่ายสืบสวน สถานีตำรวจนาหวาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐได้มอบเงินช่วยเหลือกับให้ภรรยาของตำรวจผู้พลีชีพที่ห้องรับรองตำรวจภูธรภาค 5 อำเภอเมืองเชียงใหม่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจภูธรภาค 5 ขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิต และยกย่อง ส.ต.ท.ศรัณยู สิงห์ดำ ที่ปฏิบัติหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์จนวินาทีสุดท้ายอย่างสมเกียรติตำรวจไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดูแลสวัสดิการและสิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่ต่อไป