ที่สมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ถนนราชวิถี แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร นายนคร วีระประวัติ นายกสมาคมจัดพิธีอัญเชิญพระสยามเทวาธิราชขึ้นประดิษฐานบนบุษบกแทนศาลพระภููมิเดิมของสมาคม นำพวงมาลัยเข้าสักการะ พระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่พิพิธภัณฑ์หนังสือพิมพ์ไทย ชั้น 2 อาคารสมาคมเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อวงการสื่อมวลชนไทย
จากนั้น นายวิชัย ชูชัยเจริญ หรือซินแซจู ประธานมูลนิธิสว่างดาวดึงส์ธรรม ทำพิธีอัญเชิญพระสยามเทวาธิราชขึ้นประดิษฐานบนบุษบก มีนายนคร วีระประวัติ นายกสมาคม ดร.วีรศักดิ์ โควสุรัตน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานคณะที่ปรึกษาสมาคม นายขจรศักดิ์ จิรรัตน์จรัสธร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐาปนินทร์ จำกัด ผู้ออกแบบและจัดสร้างบุษบกหนึ่งเดียวในโลก รวมทั้งที่ปรึกษาและสมาชิกสมาคมเข้าร่วมพิธีจำนวนมาก
ระหว่างที่ นายวิชัย หรือซินแซจู กำลังประกอบพิธีติดตั้งบุษบก ท้องฟ้ามืดครึ้มด้วยเมฆฝน แต่ขณะที่อัญเชิญพระสยามเทวาธิราชขึ้นประดิษฐาน ได้เกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์ทรงกลดเหนือบริเวณสมาคม และท้องฟ้ามีแสงแดดจ้า จนกระทั่งเสร็จพิธี มีฝนตกโปรยปรายลงมา สร้างความปลาบปลื้มปิติยินดีแก่ผู้เข้าร่วมพิธี
นายขจรศักดิ์ จิรรัตน์จรัสธร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐาปนินทร์ จำกัด ผู้ดำเนินการออกแบบและจัดสร้างบุษบกประดิษฐานพระสยามเทวาธิราชเปิดเผยว่า อาคารสมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ตั้งอยู่บนที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ อยู่ในเขตพระราชฐาน อีกทั้งปีนี้เป็นปีมหามงคลเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ได้คิดออกแบบบุษบกด้วยศิลปงดงามเพื่อให้เป็นมงคลแก่สถานที่ และจัดสร้างด้วยสแตนเลสอย่างดีใช้เลเซอร์ในการเคลือบสีด้วยไทเทเนียมติดคงทนสวยงาม ทนแดดทนฝน ล้างและเช็คทำความสะอาดได้ง่าย ค่าก่อสร้างกว่า 3 ล้านบาท นับเป็นบุษบกเดียวในประเทศไทยและของโลก ติดตั้งให้สมาคมฯ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย และมีการสร้างตัวล็อคองค์พระสยามเทวทธิราช ที่งดงามเหลืองอร่ามไว้ด้วย เพื่อป้องกันคนมาขโมยไป
ขณะที่ นายนคร วีระประวัติ นายกสมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์กล่าวว่า การติดตั้งบุษบกและอัญเชิญพระสยามเทวาธิราชขึ้นประดิษฐานบริเวณอาคารสมาคม ผู้ที่เข้าร่วมพิธีต่างรู้สึกได้ว่า มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เข้ามาปกปักษ์รักษาและคุ้มครองดูแลผู้ที่เข้ามาทำงานหรือติดต่อการงาอาคารแห่งนี้ นับเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตของคณะที่ปรึกษา คณะกรรมการและเพื่อนร่วมวิชาชีพที่มาใช้อาคารแห่งนี้ ทางสมาคมเปิดให้ผู้ที่ศรัทธาเข้ามาสักการะได้ แต่งดการจุดธูปและเทียน เพื่อเป็นการรณรงค์ลดมลพิษในอากาศ ส่วนใครจะนำสิ่งของมาสักการะ ขอแนะนำให้นำข้าวสารและน้ำมาถวาย เพื่อจะได้นำไปบริจาคให้แก่ผู้ยากไร้ ถือเป็นการทำบุญร่วมกัน.
