พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รองผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สารวัตรกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษกองบัญชาการตำรวจนครบาล ร.ต.ต.ทรงศักดิ์ เจียมสกุล รองสารวัตรกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษกองบัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 พร้อมด้วยนักสืบ TOP G จับกุม นายครรชิต นาคากูล อายุ 33 ปี ชาว จังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีบุรี ที่ จ 1016/2567 ลงวันที่ 23 ก.ค.พ.ศ.2567 ข้อหา “ ร่วมกันประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้กำกับโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินอันมีลักษณะเป็นการเรียกดอกเบี้ยเกินอันตราที่กฎหมายกำหนดไว้ , ร่วมกันกระทำการทวงถามหนี้ในลักษณะข่มขู่ ขู่เข็ญฯ ” จับกุมตัวได้ที่โรงแรมทองธาราวิลล่า ถนนเคหะร่มเกล้า แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร ขณะกำลังจะขับรถยนต์หลบหนี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายครรชิต ผู้ต้องหารายนี้ มีพฤติกรรมทวงหนีโหด ทำร้ายร่างกาย ข่มขู่ อีกทั้งยังล็อกประตูขังลูกหนีไม่ให้ออกจากบ้าน จากการสืบสวนยังทราบว่านายครรชิต เป็นแฟนของน้องสาว นายเคนวิทย์ หรือเคน แก๊งทวงหนีโหดที่รุมทำร้าย ยายวัย 73 ปี ท้องที่สถานีตำรวจนครบาลโชคชัยที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้ ซึ่งนายครรชิต ได้พักอาศัยอยู่ด้วยกันกับ นายเคนวิทย์ ก่อนจะไหวตัวทันหลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอาญามีบุรีออกหมายจับ กรทั่งสืบทราบว่า นายครรชิต หลบหนีกบดานอยู่ที่โรงแรมทองธาราวิลล่า ถนนเคหะร่มเกล้า แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง จึงนำกำลังจับกุมได้ดังกล่าว
สอบสวน นายครรชิต ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า เดิมทีประกอบอาชีพทำสวนผลไม้ในพื้นที่อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ต่อมาช่วงปี 2565 ตนขายที่ที่ตนทำสวนผลไม้ได้เงินมาก้อนนึง จึงมาปล่อยเงินกู้ โดยมีนายต้า และนายเขต ผู้ต้องหาซึ่งยังหลบหนีที่ร่วมก่อเหตุด้วยกันเป็นทีมงาน ตระเวนปล่อยเงินกู้ย่านมีนบุรี รามอินทรา ร่มเกล้า อ่อนนุช โดยเรียกเก็บดอกเบี้ยร้อยละ 20 บาท ต่อวัน กับผู้ที่มาขอกู้ยืมเงิน โดยทั่วไปจะมีผู้มาขอยืมกู้ยืมเงินครั้งละประมาณรายละ 5,000-6,000 บาท ซึ่งตน นายต้า นายเขต จะเป็นคนไปตามทวงเงินกับผู้กู้ยืม ในวันเกิดเหตุอ้างว่านายต้า และนายเขต เป็นคนใช้ความรุนแรงกับลูกหนี้ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ปักใจเชื่อในคำให้การ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลมีนบุรี ดำเนินคดีต่อไป
