พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผุ้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. พร้อมด้วย นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำกำลังบุกเข้าจับกุม นายชาตินรินทร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ปฏิบัติราชการในหน้าที่ผู้กลั่นกรอง ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ จ60/2567 ลงวันที่ 26 ก.ค. 256ึึ7 ข้อหา “เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์โดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นพนักงานอัยการเรียกรับ หรือ ยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้น จะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือ ละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐเรียก รับ หรือยอมจะรับ ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่” จับกุมได้ที่ห้องทำงาน สำนักงานอัยการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมของกลางเงินสด 150,000 บาท
สืบเนื่องจาก นายชาตินรินทร์ ผู้ต้องหา ซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ปฏิบัติราชการในหน้าที่ผู้กลั่นกรอง แต่กลับมีพฤติกรรมเรียกรับผลประโยชน์ จากผู้เสียหายรายหนึ่ง ที่ถูกดำเนินคดี ในคดี ลักทรัพย์โฉนดที่ดิน โดยอ้างว่า สามารถวิ่งเต้นเคลียร์คดีให้กับผู้เสียหายได้ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องยอมจ่ายเงินเป็นค่าดำเนินการจำนวน 200,000 บาท แต่ด้วยความที่ผู้เสียหายเกรงว่าหากไม่ยอมทำตามจะทำให้ถูกกลั่นแกล้ง เนื่องจากคดีของผู้เสียหายปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของชั้นอัยการ จึงตัดสินใจยอมจ่ายเงินงวดแรกให้ก่อนจำนวน 5 หมื่นบาท
จากนั้นจึงรีบนำเรื่องดังกล่าวเข้าปรึกษากับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. จนมีการบูรณาการกำลังร่วมกับทางตำรวจ บก.ปปป. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ พร้อมวางแผนเข้าจับกุมในวันนี้ ซึ่งเป็นวันนัดจ่ายเงินส่วนที่เหลืออีก 150,000 บาท จนนำมาสู่การเข้าจับกุมตัวได้พร้อมเงินของกลางดังกล่าว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเข้าตรวจค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมภายในห้องทำงานของ นายชาตินรินทร์ จากการสอบปากคำเบื้องต้น นายชาตินรินทร์ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา