พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวฯ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี และ พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รองผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวฯ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล สั่งการให้ พ.ต.ท.ศราวุฒิ พิมพ์สุภาพร สารวัตรผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวฯ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ร.ต.อ.พงศกร อินทร์คง รองสารวัตรผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวฯ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล จ.ส.ต.สัมฤทธิ์ แก้วสุริยา ผู้บังคับหมู่กองกำกับการวิเคราะห์ข่าวฯ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล นำกำลังจับกุม นายกรีลัลติกาล หรือเอกกี้ อัครปกานรรท์ อายุ 43 ปี ที่อยู่ เลขที่ 79 ม.3 ต.สักหลง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.979/2567 ลงวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 ข้อ “ลักทรัพย์” จับกุมที่บริเวณบ้านเช่า ถ.สุขุมวิท48/2 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย จังหวัดกรุงเทพมหานคร
ก่อนจับกุม นายกรีลัลติกาล หรือเอกกี้ ผู้ต้องหารายนี้ มีพฤติกรรม อ้างตัวเป็นโมเดลลิ่ง เชิญชวนให้ผู้เสียหายมาเเคสต์งานโฆษณา เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ นายเอกกี้ ได้ออกอุบายให้มาพบที่ตลาดมีนบุรีเนื่องจากกองถ่ายอยู่ด้านหลังตลาดมีนบุรี ก่อนจะให้ผู้เสียหายเข้าทำผมที่ภายในตลาดมีนบุรี เมื่อทำผมเสร็จเเล้วปรากฏว่า นายเอกกี้ได้หายไป พร้อมตรวจสอบทรัพย์สินพบว่า มี Ipad Air 5 สีทอง ราคาประมาณ 23,000 บาท และโทรศัพท์ Iphone สีขาว ราคาประมาณ 20,000 บาท ได้หายไป จึงเข้าเเจ้งความร้องทุกข์จนมีการออกหมายจับไว้ กระทั่งนำมาสู่การจับดังกล่าว
สอบสวน นายกรีลัลติกาล หรือเอกกี้ ให้การว่า ได้เจอผู้โดยสารที่ป้ายรถเมล์และได้มีการพูดคุยแลกเบอร์โทรศัพท์กันไว้ ก่อนจะนัด ผู้เสียหายมาเจอกันที่ห้างสรรพสินค้าและชวนมาทำทรงผมที่ตลาดมีนบุรี ก่อนที่จะไปแคสต์งาน หลังจากนั้นได้ยืมโทรศัพท์ผู้เสียหายโทรหาเพื่อน และอาศัยจังหวะที่ผู้เสียหายทำผมอยู่นำกระเป๋าของผู้เสียหายไป จากนั้นได้นำ โทรศัพท์ไปขายคนเขมร ชื่อนายแม ย่านหัวลำโพง ได้เงินมา 16,000 บาท เงินที่ได้มาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและตั้งตัวหลังจากพ้นโทษออกมา ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ดำเนินคดีนอกจากนี้ตรวจสอบประวัติในฐานระบบ พบมีประวัติ ปี 2551 คดีลักทรัพย์ สน.โชคชัย, ปี 2551 คดีลักทรัพย์ สน.ลุมพินี, ปี 2556 คดีลักทรัพย์ สภ.พระประแดง, ปี 2560 คดีลักทรัพย์ สน.ทองหล่อ, ปี 2565 คดีร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น สภ.เมืองกาฬสินธุ์อีกด้วย
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ฝากเตือนภัยไปยังประชาชนที่มีความฝันอยากเข้าวงการบันเทิง ปัจจุบันมิจฉาชีพมีอยู่เป็นจำนวนมาก ขอให้ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ควรตรวจสอบที่มาที่ไปของโมเดลลิ่งให้รอบคอบ อย่าเชื่อใจคนง่าย เพราะถ้าพลาดไป อาจจะลวงไปลักทรัพย์ หรือล่วงละเมิดถูกแบล็กเมล์ และขอแจ้งประชาชน หากท่านเคยตกเป็นผู้เสียหายของผู้ต้องหารายนี้ ขอให้รีบแจ้งร้อยเวรทำการอายัดตัวโดยเร็วที่ สน.มีนบุรี
