สืบตม.บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวเกาหลีใต้ เช่าอาคารหรูตั้งฐานกลางกรุง

พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (บช.สตม.) พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ, พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี, พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล, พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว, พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผู้กำกับการ1กองบังคับการสืบสวนสอบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พ.ต.อ.รัฐพงศ์ แก้วยอด ผู้กำกับการ4กองบังคับการสืบสวนสอบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวเกาหลีใต้

พล.ต.ต.พันธนะ เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาตำรวจฝ่ายสืบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (บก.สส.สตม.) จับกุมคนต่างด้าวสัญชาติเกาหลีใต้ จำนวน 8 คน ดังนี้ ปนะกอบด้วย 1. นายแจซุก (นามสมมติ) อายุ 26 ปี 2. นายจุนฮี (นามสมมติ) อายุ 31 ปี 3. นายวูจิน (นามสมมติ) อายุ 27 ปี 4. นายเจ (นามสมมติ) อายุ 29 ปี 5. นายซางกี (นามสมมติ) อายุ 26 ปี 6. นายซังฮูน (นามสมมติ) อายุ 26 ปี 7. นายฮุนจิน (นามสมมติ) อายุ 26 ปี และ 8. นายจุงฮูน (นามสมมติ) อายุ 26 ปี

     

พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวต่อว่า ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีชาวเกาหลีใต้ได้มาเช่าห้องภายในอาคารหรู ย่านเอกมัย ซอย 3 ถนนสุขุมวิท เขตวัฒนา กรุงเทพฯ มีพฤติการณ์น่าสงสัยว่าจะเป็นแก๊งการพนันออนไลน์หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงได้มาตรวจสอบพบว่าห้องที่มีชาวเกาหลีเข้า-ออก ประจำ อยู่ที่ชั้น 4 ของอาคารดังกล่าว ประตูหน้าห้องติดอักษรภาษาอังกฤษคำว่า “CONTENT FACTORY. KOREA&THAI” จึงได้แสดงตัว          เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเข้าทำการตรวจสอบ ผลการตรวจสอบพบว่าภายในห้องดังกล่าวแบ่งออกเป็น 2 ห้อง โดยห้องแรกเป็นห้องเล็ก มีคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ จำนวน 8 ชุด ห้องใหญ่มีคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 12 ชุด แต่ละชุดมีจอคอมพิวเตอร์ 2 จอ มี นายแจซุก พร้อมกับพวกรวม 8 คน กำลังนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ในลักษณะพูดคุยชักชวน เพื่อให้ร่วมลงทุนกับธนาคาร Hana Partners Investment ซึ่งเป็นธนาคารของเกาหลีใต้ ผ่านหน้าเว็บไซต์ https://hanapartners.net/login ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นเพื่อให้เข้าใจว่าเป็นเว็บไซต์ของธนาคารจริง แต่เมื่อเข้าไปดำเนินการตามขั้นตอนแล้ว อาจจะสูญเสียเงินที่ลงทุนไป

นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ จำนวน 17 เครื่อง ไอแพด จำนวน 4 เครื่อง จากการสอบถามทั้ง 8 คน ให้การยอมรับว่ามีการจ้างให้มาทำงานในประเทศไทยโดยการทำงานในลักษณะการพูดคุยผ่านทางโซเชียลมีเดียในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อชักชวนลักษณะการเป็นตัวแทนเพื่อหาลูกค้าให้เข้ามาร่วมลงทุนผ่านทางเว็บไซต์ดังกล่าว โดยจะได้ค่าจ้างเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ได้จากการหาลูกค้าเข้ามาลงทุน โดยเบื้องต้นจึงได้จับกุมทั้ง 8 คน ดำเนินคดีในข้อหาเป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมตรวจยึดของกลางจอคอมพิวเตอร์ 40 จอ ซีพียู 20 เครื่อง โทรศัพท์มือจำนวน 17 เครื่อง และไอแพด จำนวน 4 เครื่อง ไว้เพื่อตรวจสอบและประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเกาหลีใต้ ในการสืบสวนขยายผลการจับกุมต่อไป

พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวด้วยว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิด   ในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่น ๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือที่ www.immigration.go.th.

RELATED ARTICLES