พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (บช.สตม.) พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง3 ร่วมแถลงข่าวจับกุมคดีสำคัญ 2 คดี
พล.ต.ต.พันธนะ เปิดเผยว่า คดีแรกเจ้าหน้าที่ ตม.จังหวัดชลบุรี ได้รับการประสานข้อมูลจาก ป.ป.ส. ว่ามีคนต่างด้าวสัญชาติเกาหลีใต้มีพฤติการณ์เก่ียวข้องกับ ยาเสพติดเข้ามาหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่เมืองพัทยา จึงได้ทาการสืบสวนจนทราบว่า คนต่างด้าวดังกล่าวคือนายจิน (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ ซ่ึงการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ส้ินสุดแล้ว (OVERSTAY) ต่อมาได้รับ แจ้งจากสายลับว่านายจินจะเดินทางมายังร้านอาหารเกาหลีในพื้นท่ี หมู่ 6 ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี จึงนำกำลังลงพื้นที่จนพบ นายจิน ปรากฎตัว จึงได้แสดงตัวจับกุมในข้อหา OVERSTAY
จากการสอบถามนายจินเกี่ยวกับพฤติการณ์ ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด นายจินให้การยอมรับว่าตนเป็นรองหัวหน้าแก๊งยาเสพติด ทาหน้าที่จัดหายาเสพติดในประเทศ ไทยเพื่อส่งไปยังประเทศเกาหลีใต้ โดยใช้วิธีการให้ผู้หญิงซุกซ่อนยาเสพติดไว้ตามร่างกาย ซึ่งทำมาแล้วประมาณ 4 ครั้ง จากแนวทางสืบสวน สำหรับมูลค่าของยาเสพติดหากหลุดรอดเข้าไปในประเทศเกาหลีใต้จะมมีูลค่าสูง ขึ้นมากโดยยาไอซจ์ะมีราคาจาหน่ายกิโลกรัมละ 13 ล้านบาทส่วนคีตามีน กิโลกรัมละ 5.2ล้านบาท
พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวต่อว่า อีกคดี เจ้าหน้าที่ ตม.จังหวัดชลบุรี เข้าจับกุมนาย A (นามสมมติ) อายุ 29 ปี สัญชาติรัสเซีย ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยการอนุญาตสิ้นสุด และทำปลอมขึ้นซึ่งเงินตราไม่ว่าจะปลอมขึ้นเพื่อให้เป็นเหรียญกษาปณ์ ธนบัตรหรือสิ่งอื่นใด ซึ่งรัฐบาลออกให้ หรือให้อำนาจให้ออกใช้ หรือทำปลอมขึ้นซึ่งพันธบัตรรัฐบาลหรือใบสำคัญสำหรับรับดอกเบี้ยพันธบัตรนั้นผู้นั้นกระทำผิด ฐานปลอมเงินตรา, ได้มาโดยรู้ว่าเป็นเงินตราเป็นของปลอม” พร้อมของกลางเงินสกุลยูโรปลอม ฉบับ 500 ยูโร จำนวน 6 ฉบับ ฉบับละ 50 ยูโร จำนวน 80 ฉบับ จับกุมโรงแรมในย่านพระตาหนักซอย 6 หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จังหวัดชลบุรี
เนื่องจาก ตม.จว.ชลบุรี ได้รับแจ้งจากพนักงานตู้รับแลกเงินว่า มีคนนำธนบัตรยูโรปลอมฉบับละ 500 ยูโร จานวน 1 ฉบับ มาแลกเปลี่ยนที่ร้านรับแลกเงินของตน จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ พบว่าได้มีชายไทยนำเงินสกุลยูโร ฉบับละ 500 ยูโร จำนวน 1 ฉบับ มาแลกเปลี่ยนเป็นสกุลเงินบาท แต่เมื่อพนักงานผู้รับแลกเงินได้ตรวจสอบธนบัตร พบว่าเป็นธนบัตรปลอม ที่ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวนทราบว่าผู้ที่นำธนบัตรยูโรปลอมมาแลก เป็นพนักงานต้อนรับโรงแรมแห่งหนึ่ง จากการสอบถามให้การว่า ได้มีนาย A (นามสมมุติ) สัญชาติรัสเซีย ซึ่งได้เข้าพักที่โรงแรมมาเป็นเวลาประมาณ 3 อาทิตย์โดยยังไม่ได้ชาระเงินค่าที่พัก ได้นาธนบัตรยูโรฉบับ ละ 500 ยูโรฉบับดังกล่าว มาจ่ายค่าที่พักตนจึงได้นาไปแลกเปลี่ยนเป็นสกุลเงินบาทกับทางตู้แลกเงินดังกล่าว ไม่ทราบว่าเงินสกุลยูโรดังกล่าวเป็นธนบัตรปลอม พร้อมทั้งยังได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยการนำเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าตรวจสอบ ห้องพักของนาย A ผลการตรวจสอบพบนาย A อยู่ที่ห้องดังกล่าว จึงขอดูหนังสือเดินทางปรากฏว่า การอนุญาตสิ้นสุด (OVERSTAY) พร้อมขอตรวจสอบกระเป๋าสีดาที่อยู่ในห้องพักของนาย A พบว่ามีเงินสกุล ยูโรฉบับละ 500 ยูโร 5 ฉบับ และธนบัตรฉบับละ 50 ยูโร จำนวน 80 ฉบับ จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน
“สอบสวน นาย A ให้การับว่าเงินสกุลยูโรทั้งหมดเป็นของตนและเป็นธนบัตรยูโรปลอมโดยมีเพื่อน ที่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกีให้นำติดตัวมาใช้จ่ายที่ประเทศไทย และได้นำมาจ่ายค่าที่พักกับทางโรงแรมจนมาถูกจับกุม เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและจับกุมตัวนาย A ดาเนินคดีในข้อหาดังกล่าว ก่อนนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดี” พล.ต.ต.พันธนะ กล่าว