กับดักหัวปิงปองนักล่า

 

ดุไม่แพ้ด่านตรวจบนถนนหลวงสายเอเชียเขตอำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี

เพิ่งฉลองวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 64 ปีของหน่วยมาหมาด ๆ แต่ได้รับการร้องเรียนไม่เคยเข็ดขยาด

ตั้งด่านตรวจกวดขันวินัยจราจร หรือตรวจวัดแอลกอฮอล์ล้วนขึ้นชื่อว่า “มือหนัก” ปรับสดไม่ลดราคาแลกกับการไม่ดำเนินคดี

เป็นกลุ่ม “หัวปิงปองนักล่า” ชนิดชาวบ้านพากันเอือมระอำ

วันก่อนมีเสียงสะท้อนส่งมาระบายความรู้สึก หลังมีธุระไปแถวนวลจันทร์ รามอินทราใช้เส้นทางถนนวิภาวดีรังสิตเวลาประมาณ 14.30 น. มาถึงแยกตัดถนนงามวงศ์วาน

ความเป็นคนบ้านนอกนาน ๆ จะขับรถเข้ากรุง ตั้งใจจะตรงไปใช้สะพานกลับรถลงถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้าเพื่อเลี้ยวซ้ายเข้าถนนงามวงศ์วานไปเกษตรนวมินทร์

วิ่งทางตรงถนนโล่งมาก ไม่มีรถซักคัน แต่ตรงแยกที่จะเลี้ยวซ้ายเข้างามวงศ์วาน ข้ามทางรถไฟไปทางซ้าย มีรถเข้าแถวรอเลี้ยวซ้ายอัดแน่นอยู่ประมาณ 30 คัน

ด้วยความที่ใจลอย และทางตรงไม่มีรถซักคัน เห็นว่าเป็นระเบียบดี  และทางตรงดันไม่มีใครไป นึกว่า ทางวิ่งไปทางนี้ เขาดันเหไปจอดต่อแถวรถรอเลี้ยวซ้ายที่จะไปงามวงศ์วานซะงั้น

ไปต่อคันสุดท้ายในเสี้ยววินาทีนั้นนึกขึ้นได้ว่าจะไปทางตรงเลยผละออกจากแถว  วิ่งทางตรงจะไปขึ้นสะพานกลับรถ

ฉับพลันนั้น มีกะทาชายสองนายสวมชุดสีกากีใส่หมวกหัวปิงปองซุ่มโป่งอยู่บริเวณนั้นโผล่ออกจากที่ซ่อนอย่างปัจจุบันทันด่วน

นายหนึ่งเจรจากับรถอีกคันที่จอดอยู่ตรงแยก

อีกนายหนึ่ง ลักษณะหน้ากลมๆ หุ่นสมบูรณ์พอตัวอายุประมาณ 30 โบกให้จอด ในใจคิดว่า คงไม่ใช่ความผิดอะไรมากมาย นายคนที่โบกบอกเสียงดัง

“เข้าใจว่าไม่รู้ทาง แต่กฎต้องเป็นกฎ จ่ายมาสองร้อย  สแกนจ่ายให้จบๆ ไป” ว่าพลางควักเครื่องสแกน QR ออกมาเรียกหาใบอนุญาตขับขี่

“แค่นี้ถึงกะจะเอาตังค์กันเลยหรือ” เขาคิดในใจ

กะทาชายคนเดิมสำทับมาว่า “รับผิดชอบมาเสียดีๆ”

เขาคิดในใจ เอาวะ น้องอยากได้ พี่ก็ให้

“สองร้อย ขอกันกินมากกว่านี้ ข้อหาไม่ได้แจ้ง แต่ถ้าน้องเขาจะเอา คงหาข้อหาให้เราได้”  เขาเข้าใจว่าตอนที่เหหัวรถออกมาทางตรงถึงจะเป็นปลายแถวคันสุดท้าย แต่มีเส้นทึบอยู่ คงพลาดไปเหยียบตอนออกมาไม่ทันระวัง

ระหว่างกะทาชายจับบัตรเข้าไปในเครื่อง ให้สแกน เขาถามว่า ถ้าไม่มีแอปสแกน ต้องทำอย่างไร

เพราะเพิ่งหัดลงแอปพลิเคชันธนาคารได้ไม่นาน

หมอนั่นไม่ตอบ ย้ำว่า “มีตังค์ด้วย สแกนมา”

เขาสังเกตดู หมอนี่ สังกัดไหน ไม่มีบอก ตราสัญลักษณ์ใดๆ ไม่มี ชั้นยศ ป้ายชื่อ ไม่มี เข็มเหรียญ เครื่องหมายอะไรก็ไม่มีติด

มีอย่างเดียวคือ ชุดสีกากี ที่พอจะอนุมานได้ว่า น่าจะเป็นตำรวจ กับเครื่องสแกน QR Code 1 อัน ไว้รับเงินที่หัวขึ้นว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ระหว่างที่สแกน มีรถคันต่อๆ มา “ติดกับดัก”เช่นกัน คือจะต่อแถว แล้วเปลี่ยนใจมาวิ่งทางตรง

หมอก็ไล่เราให้ขยับไปข้างหน้าให้คันข้างหลังมาจอดต่อๆ รอคิวจ่ายเงินต่อไป

เข้าใจว่า ช่วงเวลาที่รถติดรอเลี้ยวซ้ายแต่ละจังหวะมีรถผ่านเข้ามาติดกับดักตรงนี้ ไม่ต่ำกว่าครั้งละ 5 คัน

หมอรอตรงนี้ชั่วโมงหนึ่ง น่าจะกดไปได้หลายพันอยู่

หลังผ่านฉากเหล่านี้ไปแล้ว เขามีคำถามที่เข้ามาในหัว คือ นี่ถ้าจะไม่โดนปรับ ต้องจอดต่อคิวอยู่อย่างนั้น เพื่อไปเดอะมอลล์ งามวงศ์วานใช่หรือไม่ ทั้งที่จุดหมาย คือ นวลจันทร์ รามอินทรา

คำถามต่อมา คือ หมอนี่ใช่ตำรวจหรือเปล่า

น่าจะใช่แหละ เพราะมีเครื่องสแกน QR Code เก็บเงินค่าปรับ แต่แต่งตัวสวมเครื่องแบบไม่แสดงสัญลักษณ์ใดๆ  สังกัด ชั้นยศ ป้ายชื่อ เครื่องหมายติดเสื้อต่างๆ เกลี้ยงเกลามาก

คงเป็น “ตัวทำเงิน” ให้ต้นสังกัดอย่างเป็นกอบเป็นกำ

ฝากผู้เป็นนายลองเช็กดูลูกน้องหัวปิงปองนักล่าด้วย

 

RELATED ARTICLES