รวบบัญชีม้าแก๊งคอลฯ อ้างเป็นตำรวจชุมพร หลอกเหยื่อสูญเงิน 2 ล้านบาท

พล.ต.ท.ธิติ  แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.อรรชวศิษฎ์ ศรีบุญยมานนท์ ผู้กำกับการสืบสวน3กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง และ พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ รองผู้กำกับการสืบสวน3กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.วรุตม์ คำหล้า สารวัตรกองกำกับการสืบสวน3กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล  ร.ต.อ.พิชชากร กองสวัสดิ์ ,ร.ต.อ.พงศธร อารีย์ รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวน3กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล  ด.ต.ประเทศ ช่อลำเจียก,จ.ส.ต.ภานุพงศ์ เวฬุวนารักษ์, จ.ส.ต.อวิรุทธ์ เนียมบุญเจือ, จ.ส.ต.นิติสิทธิ์ โชติคุต, ส.ต.อ.พลภัทร ปรีชา ผู้บังคับหมู่กองกำกับการสืบสวน3กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล เข้าจับกุมนายศักดิ์ชัย หมายชม อายุ 27 ปี ชาวจังหวัดปทุมธานี ตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 787/2567 ลงวันที่ 4 กันยายน 2567 ข้อหา “เป็นผู้สนับสนุนความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น” ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง(สาขามีนบุรี) ที่ 5/2566 ลงวันที่ 14 มีนาคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืนหรือรับของโจร” จับกุมที่ห้องเช่า ซอยไทยธานี16 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

ก่อนจับกุม มีคนร้ายโทรศัพท์สุ่มเข้ามาหาผู้เสียหาย อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร แจ้งผู้เสียหายว่ามีพัสดุจากบริษัทเคอรี่ ไม่ทราบว่าเป็นของผู้ใดตรวจสอบพัสดุพบ หนังสือเดินทาง, บัตรเอทีเอ็ม, พร้อมสมุดธนาคาร ซึ่งมีชื่อของผู้เสียหายปรากฏอยู่ แล้วอ้างว่าผู้เสียหายอาจจะมีส่วนพัวพันเกี่ยวข้องกับมิจฉาชีพ ก่อนออกอุบายให้ผู้เสียหายแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยการโอนเงินมาเพื่อทำการตรวจสอบ แล้วจะโอนเงินกลับคืนมาภายใน 2 วัน จนมีผู้เสียหายหลายรายหลงเชื่อมูลค่าความเสียหายกว่า 2,121,015 บาท ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาลสืบทราบว่า นายศักดิ์ชัย หลบหนีอยู่ที่ห้องเช่า ซอยไทยธานี16 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงนำกำลังเข้าตรวจค้น แต่ผู้ต้องหาไม่เปิดประตูห้องทำเหมือนไม่มีคนอยู่และแอบย่องไปแอบซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำห้องพักข้างๆแต่ไม่พ้นนำมือเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ดังกล่าว

สอบสวน นายศักดิ์ชัย ให้การว่า เมื่อประมาณ เดือนเมษายน 2567 มีพี่ที่รู้จักกันชักชวนให้เปิดบัญชีและไปทำงานคาสิโนที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา จำนวน 3 วัน โดยมีนายหน้ามารับ ด้วยรถตู้เดินทางไปยังไปอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว และภายในรถตู้มีผู้สมัครทำงานคล้ายตนนั่งไปด้วย 6 คน เมื่อไปถึงชายแดน ต้องเดินเท้าผ่านป่าจนถึงลำคลอง จากนั้นนั่งแพข้ามน้ำไปขึ้นฝั่งประเทศกัมพูชา จะมีชายชาวกัมพูชามารอรับอยู่อีกฝั่ง และพาเดินทางไปยังที่พัก เป็นตึก 5 ชั้น โดยพักห้องละ 5 คน และเปิดบัญชีธนาคารแบบออนไลน์เพิ่มเติมอีก จำนวน 5 บัญชี ได้ค่าตอบแทน จำนวน18,000 บาท และเดินทางกลับพร้อมพวกอีก 6 ก่อนนำตัวส่ง สภ.สำโรงเหนือ ดำเนินคดี

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ขอฝากเตือนภัยมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหลอกลวงให้ประชาชนโอนมาตรวจสอบ  แจ้งไปยังผู้เสียหายว่าบัญชีธนาคาร หรือพัสดุที่ส่งไปต่างประเทศมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด หรือบัญชีธนาคารของคุณถูกอายัด เป็นหนี้บัตรเครดิต เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด การฟอกเงิน มีคดีความ หรือหลอกลวงว่าได้เช็คเงินคืนภาษี หรือหลอกถามข้อมูลส่วนตัวเพื่อนำไปปลอมแปลงในการทำธุรกรรมต่างๆ กระทั่งผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปยังบัญชีที่มิจฉาชีพเตรียมไว้ ทำให้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ขอประชาสัมพันธ์แนวทางป้องกัน ดังนี้ ไม่มีนโยบายของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่จะต้องโทรศัพท์ไปยังประชาชน เพื่อแสดงเอกสาร กล่าวอ้างว่าท่านกระทำความผิด หรือมีส่วนในการกระทำความผิด หากพบการกระทำดังกล่าว สันนิษฐานได้ว่าเป็นมิจฉาชีพแน่นอน ไม่ตกใจ ไม่เชื่อเรื่องราวต่างๆ วางสายการสนทนาดังกล่าว ไม่โอนเงิน หากมีคำพูดว่าให้โอนเงินมาตรวจสอบเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ ไม่กดลิงก์ ติดตั้งแอปพลิเคชันใดๆ ที่ไม่ทราบแหล่งที่มาที่ชัดเจน ทั้งนี้หากพบเบาะแสการกระทำผิด สามารถติดต่อไปยังสายด่วน หมายเลข 1441

RELATED ARTICLES