คืน “ราตรีขวัญดาว” เรื่องราวความรักของนายตำรวจหนุ่มกับเจ้าสาวแสนสวย
ความฝันของผู้หญิงหลายคนได้รอดซุ้มกระบี่ท่ามกลางบทเพลงส่งสัญญาณวิวาห์หวานกับการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ “ครอบครัวผู้พิทักษ์สันติราษฎร์”
แต่หลายคู่ไม่ได้รอดซุ้มกระบี่เพียงครั้งเดียว
เมื่อถึง “สถานีปลายทาง” หล่อนจะมีโอกาสเคียงข้างคนรักเดินผ่านซุ้มกระบี่ใน “วันเกียรติยศ” อำลาชีวิตราชการของสามี
เฉกเช่น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ควงแขน คุณนิภาพรรณ สุขวิมล นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ
ส่งเสาหลักของบ้านคืนสู่อ้อมกอดครอบครัว หลังจากเสียสละเวลาขโมยความสุขที่จะดูแลเอาใจใส่ลูกเมียตลอดกว่า 40 ปีในชีวิตตำรวจไปรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของใครก็ไม่รู้ ญาติพี่น้องก็ไม่ใช่ เพื่อนฝูงก็ไม่เชิง
แต่ด้วยเพราะหน้าที่ย่อมปฏิเสธไม่ออก
วันพรุ่งนี้ หลายคนได้สามีกลับมาอยู่บ้าน ลูกได้พ่อค่อยอยู่ดูแลความอบอุ่น ไม่ต้องหวาดระแวงว่า เช้าวันไหนพ่อออกจากบ้านแล้วจะได้กลับมาหรือไม่
นี่แหละคือ วันแห่งความสุขแท้จริง
30 กันยายน วันสุดท้ายในอาชีพรับราชการตำรวจ บางคนประกวดผลงานเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย เสี่ยงคุกเสี่ยงตะราง เต็มไปด้วย “รอยบิ่น” ต้องมลทินเกือบเอาตัวไม่รอด
บางคนสอบผ่านฉลุย ไร้คราบสกปรกของ “ขยะสังคม” เปื้อนเครื่องแบบจนถึงวันสุดท้าย
การอยู่รอดจนถึงวันเกษียณอายุราชการจะเป็นตำนานให้ทุกคนได้จดจำ
พรุ่งนี้หลายคนอาจเหงา ซึมเศร้า ขาดลูกน้อง ผู้ใต้บังคับบัญชา มิตรสหายคอยนั่งปรับทุกข์คลายเครียด
แต่ต้องไม่ลืมครอบครัวที่เฝ้ารอวันนี้มานาน
พวกเขาอยากให้พ่อหายเหนื่อย
ชอบนายตำรวจคนหนึ่งที่ยังอยู่ในชีวิตราชการทิ้งแง่คิดไว้ ” อีกไม่กี่สิบปีทุกอย่างที่เรามีก็จะกลายเป็นของคนอื่นอาจจะเหลือไว้เพียงแค่รูปถ่ายที่ติดไว้บนฝาผนัง”
แล้ววันหนึ่งเราก็จะถูกลืม
“ทุกวันนี้เลยมองหาแค่ความสุขง่าย ๆไม่ต้องยุ่งยาก เพราะเรามาที่นี่แค่ชั่วคราว”
นาฬิกาชีวิตของเรา เริ่มนับถอยหลัง โดยที่ไม่มีวันรู้เลยว่า มันจะหยุดลงเมื่อไร อยากกินอะไรกิน อยากทำอะไรทำ เลิกสนเลิกแคร์ว่า คนอื่นจะมองยังไง
พยายามมีความสุขกับสิ่งเล็กๆที่อยู่รอบตัวให้ได้ในทุกวัน
ขอต้อนรับสู่ “สถานีสุดปลายทาง”
ได้เวลาลง “ถอดหัวโขน” วางยศตำแหน่ง